นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การที่ตลาดในประเทศมองว่าการใช้นโยบายการเงินเพื่อดูแลเสถียรภาพด้านราคา อาจเป็นแรงจูงใจให้เกิดการไหลเข้าเงินทุนต่างประเทศจากส่วนต่างดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศที่ห่างกันมากขึ้นนั้น คงไม่ถูกต้องนัก เพราะหน้าที่ของ ธปท.คือการดูแลอัตราเงินเฟ้อ เพื่อป้องกันต้นทุนการเงินในอนาคตไม่ให้สูงขึ้น
การดำเนินนโยบายการเงินจะต้องมองไปข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ความเสี่ยงของเศรษฐกิจมาจากปัจจัยด้านเงินเฟ้อ หากมองในมุมที่ว่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามาเก็งกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในและนอกประเทศนั้น ในประเด็นนี้นักลงทุนคงหันไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซียมากกว่า เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 6% ซึ่งการไหลเข้าของเงินทุนมาจากหลายปัจจัย ไม่ใช่เพียงแค่อัตราดอกเบี้ยด้านเดียว
"หากถามว่าขณะนี้ความเสี่ยงของเศรษฐกิจมาจากปัจจัยทางด้านใด คำตอบก็คือเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ ในทางกลับกันหากถามว่าไม่กลัวเงินทุนไหลเข้าจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นหรืออย่างไร คำตอบที่อธิบายที่ได้อย่างง่ายก็คือ หากนักลงทุนต้องการเก็งกำไรจากช่วงของอัตราดอกเบี้ยที่สูง น่าจะมองไปที่ประเทศอินโดนีเซียมากกว่า เพราะมีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 6%" นางอัจนา กล่าวทั้งนี้ ปัญหาสำคัญคือโอกาสที่สหรัฐจะดำเนินนโยบายการคลังมีน้อยลง และหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นในอนาคต สหรัฐจะใช้นโยบายขาดดุลงบประมาณได้ในวงเงินที่ไม่สูงมาก และจะกลายเป็นข้อจำกัดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ