อินโดนีเซียวางแผนที่จะยุติการส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ภายในปี 2557 เพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศและอนุรักษ์แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ
การส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่เป็นจำนวนมากในปัจจุบันจะทำให้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติถูกนำไปใช้จนหมด ขณะเดียวกันยังจะทำให้ภาคอุตสาหรรมของประเทศทรุดตัวเนื่องจากขาดเชื้อเพลิงที่ผลิตจากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิต
นายอกุส จาฮาจานา ผู้อำนวยการประสานงานอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า แผนระงับการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติดังกล่าวจะนำมาใช้กับทุกประเทศที่เคยเป็นตลาดส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ นายอกุสยังเผยด้วยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอให้มีการออกกฎหมายพิเศษเพื่อเรียกเก็บภาษีส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่เพิ่ม ก่อนที่จะบังคับใช้นโยบายยุติการส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ในปี 2557
"เราจำเป็นต้องเก็บภาษีขาออกสูงขึ้นในระยะเปลี่ยนผ่านนี้ จนกว่าจะมีการบังคับใช้นโยบายดังกล่าว" นายอกุสกล่าววานนี้สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดรับซื้อสินค้าจากทรัพยากรแร่รายใหญ่ของอินโดนีเซียคือจีน เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (บีพีเอส) เปิดเผยว่า 3 ประเทศผู้รับซื้อแร่ธาตุส่งออกจากอินโดนีเซียสูงสุดในเดือนที่แล้วคือ จีน (1.94 พันล้านดอลลาร์) ญี่ปุ่น (1.63 พันล้านดอลลาร์) และสหรัฐอเมริกา (1.34 พันล้านดอลลาร์)
บีพีเอสยังระบุด้วยว่า สินค้าจากทรัพยากรแร่เป็นกระดูกสันหลังของสินค้าส่งออกของประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 15.40% หรือประมาณ 1.218 หมื่นล้านดอลลาร์ จากมูลค่าการส่งออกทั้งหมดกว่า 9.86 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
สำหรับตัวเลขส่งออกสินค้าจากทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซียในครึ่งปีแรกนี้สูงว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 32.27% โดยปีที่แล้วตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 9.21 พันล้านดอลลาร์