สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาทองยังคงปรับตัวทำสถิติสูงสูดเป็นประวัติการณ์(นิวไฮ) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สองของวัน หลังราคาทองในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทำนิวไฮ และการปรับตัวอ่อนค่าของเงินบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. ราคากลางทองมีการปรับขึ้นจากช่วงเช้าที่ผ่านมาอีกบาทละ 50 โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 23,250 ขายออกบาทละ 23,350 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 22,906.76 ขายออกบาทละ 23,750
ขณะที่เปิดตลาดช่วงเช้าเมื่อเวลา 09.35 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 23,200 ขายออกบาทละ 23,300 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 22,861.28 ขายออกบาทละ 23,700
ทั้งนี้ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน แจ้งว่า ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 265 ดอลลาร์ฮ่องกง ไปแตะที่ระดับ 15,365 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง หรือเทียบเท่า 1,654.82 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 33.3 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.80/82 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.75/77 บาท/ดอลลาร์ จากความกังวลต่อปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและปัญหาหนี้ในสหภาพยุโรปที่ลุกลามต่อไปยังประเทศอิตาลี
ด้านบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด คาดว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นถึง 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นผลมาจากสหรัฐจะขยายเพดานหนี้สำเร็จ แต่นักลงทุนยังกังวลว่าจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง และเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ดีอย่างที่คิดไว้
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ซื้อทองคำมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อการเพิ่มผลตอบแทน แต่เพื่อสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของสินทรัพย์มากกว่า ในขณะที่เงินดอลลาร์มีปัญหา ยูโรไม่น่าสนใจ เงินเยนมีขีดจำกัด ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และเป็นทางออก ณ ขณะนี้ เพราะไม่มีทางออกอื่น หรือ ทางออกอื่นมีความเสี่ยง
แต่ทองคำในปัจจุบัน ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลาทำให้ระยะต่อไปทองคำอาจไม่มั่นคงหรือไม่ปลอดภัยได้เช่นกัน
สำหรับการบริหารพอร์ตของธนาคารกลางปกติไม่มีการกำหนดสัดส่วนของสินทรัพย์แต่ละประเภทในพอร์ต จะขึ้นอยูกับแต่ละช่วงเวลามากกว่า เพราะหน้าที่ของผู้บริหารพอร์ตก็คือดูว่าแนวโน้มในเวลานั้นเป็นอย่างไร และควรลงทุนสินทรัพย์ไหน เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยของพอร์ต