(เพิ่มเติม2) ราคาทองคำในประเทศทำนิวไฮเป็นรอบที่สี่ของวัน มาแตะที่ 23,450

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 3, 2011 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาทองยังคงปรับตัวทำสถิติสูงสูดเป็นประวัติการณ์(นิวไฮ) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สี่ของวันแล้ว โดยปรับเพิ่มขึ้นจากวานนี้รวมแล้วบาทละ 550 หลังราคาทองในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นทำนิวไฮ และการปรับตัวอ่อนค่าของเงินบาท

เมื่อเวลา 13.55 น.ราคากลางทองมีการปรับขึ้นจากช่วงบ่ายที่ผ่านมาอีกบาทละ 50 โดยราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 23,350 ขายออกบาทละ 23,450 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 23,012.88 ขายออกบาทละ 23,850

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 13.11 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 23,300 ขายออกบาทละ 23,400 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 22,967.40 ขายออกบาทละ 23,800 ขณะที่เปิดตลาดช่วงเช้าเมื่อเวลา 09.35 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 23,200 ขายออกบาทละ 23,300 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 22,861.28 ขายออกบาทละ 23,700

ทั้งนี้ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน แจ้งว่า ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 265 ดอลลาร์ฮ่องกง ไปแตะที่ระดับ 15,365 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง หรือเทียบเท่า 1,654.82 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 33.3 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.80/82 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 29.75/77 บาท/ดอลลาร์ จากความกังวลต่อปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและปัญหาหนี้ในสหภาพยุโรปที่ลุกลามต่อไปยังประเทศอิตาลี

ด้าน น.ส.ณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด คาดว่า ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นถึง 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเมื่อคืนทำนิวไฮที่ 1,664 ดอลลาร์/ออนซ์

เนื่องจากความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางหลายประเทศและกองทุน ETF ของต่างประเทศยังมีแรงซื้อสูงอยู่ โดยเฉพาะธนาคารกลางประเทศแถบเอเชีย จากความกังวลหลังสหรัฐฯ จะถูกดาวน์เกรดหลังปรับเพดานหนี้

ขณะที่ปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่คลี่คลายเป็นปัญหาที่ผลักดันให้คนถือทองคำมากขึ้น

ด้านทองคำแท่งในไทยทำนิวไฮตามทองโลก และวันนี้เงินบาทไม่แข็งค่า ทำให้ราคาทองบ้านเราขึ้นไปสูงมาก

กลยุทธ์ช่วงนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นของราคาทองรอบนี้ขึ้นสูงมากและยังไม่มีการปรับฐานเลยนักลงทุนต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะจากสิ้นมิ.ย.ที่ 1,477 ดอลลาร์ ถึงวันนี้ 1,664 ดอลลาร์/ออนซ์ ปรับขึ้นมากว่า 170 ดอลลาร์ ถือว่าสูงมากและยังไม่ปรับฐานเลย ซึ่งปกติถ้าปรับฐานจะปรับ 100 ดอลลาร์ โดยให้แนวรับรอบนี้ที่ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าหลุดก็ 1,580 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 1,550 ดอลลาร์/ออนซ์ แนวต้านถ้าพ้น 1,670 ดอลลาร์/ออนซ์ ก็จะไปที่ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์

น.ส.ณัฐฑี กล่าวว่า แนะนักลงทุนตอนนี้ถ้ามีทองคำให้ทยอยขาย แต่ถ้านักลงทุนระยะยาวถือครองได้ ถ้าไม่มีให้ชะลอและติดตามข่าวให้ดีก่อนเข้าซื้อ ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์ ระยะสั้นต้องเข้าเร็วออกเร็วเน้นเทรดสั้นมากเพราะปกติถ้าขึ้นสูงมากต้องปรับฐานอาจจะแรงแต่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นอยู่

อย่างไรก็ตาม มองราคาทองที่ปรับขึ้นในแง่กองทุนอาจเป็นการเก็งกำไรบ้างแต่ในแง่พื้นฐานก็สะท้อนอยู่แล้ว โดยแรงซื้อที่ผ่านมามาจากกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนใหญ่อันดับต้นๆ ซื้อ 18 ตัน ธนาคารกลางเกาหลีใตซื้อ 25 ตัน ธนาคารกลางไทยซื้อเมื่อสัปดาห์ก่อน 17 ตัน และคาดว่าธนาคารกลางประเทศในเอเชียจะซื้ออีกเพื่อเป็นทุนสำรอง

ขณะที่นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ซื้อทองคำมากขึ้น ไม่ใช่เพื่อการเพิ่มผลตอบแทน แต่เพื่อสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของสินทรัพย์มากกว่า ในขณะที่เงินดอลลาร์มีปัญหา ยูโรไม่น่าสนใจ เงินเยนมีขีดจำกัด ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และเป็นทางออก ณ ขณะนี้ เพราะไม่มีทางออกอื่น หรือ ทางออกอื่นมีความเสี่ยง

แต่ทองคำในปัจจุบัน ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลาทำให้ระยะต่อไปทองคำอาจไม่มั่นคงหรือไม่ปลอดภัยได้เช่นกัน

สำหรับการบริหารพอร์ตของธนาคารกลางปกติไม่มีการกำหนดสัดส่วนของสินทรัพย์แต่ละประเภทในพอร์ต จะขึ้นอยูกับแต่ละช่วงเวลามากกว่า เพราะหน้าที่ของผู้บริหารพอร์ตก็คือดูว่าแนวโน้มในเวลานั้นเป็นอย่างไร และควรลงทุนสินทรัพย์ไหน เพื่อเป็นการดูแลความปลอดภัยของพอร์ต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ