ความพยายามของรัฐบาลอิตาลีที่จะบรรเทาภาวะหนี้สินท่วมประเทศพร้อมๆกับการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปด้วยนั้นถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาซับซ้อนระลอกใหม่ นั่นคือราคาสินค้าเดือนส.ค.ที่ติดสปีดพุ่งขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 3 ปี
ข้อมูลเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ชี้ให้เห็นว่า ราคาสินค้าในเดือนส.ค.สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 2.2% ทั้งๆที่อัตราการว่างงาน การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และยอดขาดดุลงบประมาณทวีความเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา
“สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า การฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากขนาดไหน" นายอันโตนิโอ ไอเอลโล นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มหภาคประจำบริษัทหลักประกันเอบีเอส เซเคียวริตี กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว
นั่นเป็นเพราะท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังทรุดตัวลง ราคากลับทะยานขึ้นเสียอย่างนั้น
“โดยปกติแล้วช่วงเวลาที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นและการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงย่อมมีความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินฝืด แต่ไม่ใช่ในช่วงเงินเฟ้อที่สูงผิดปกติอย่างนี้"
ตัวเลขเงินเฟ้อมีปัจจัยเร่งมาจากค่าคมนาคม-ขนส่งที่แพงขึ้นในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าขนส่งทางทะเลที่ถีบตัวขึ้นสูงสุดถึง 61% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนส.ค.ปี 2553 ทั้งนี้เป็นเพราะราคาเชื้อเพลิงแพงขึ้นและความต้องการที่มีเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่สถาบันสถิติแห่งชาติอิตาลีอิสตัตมองว่า ราคาน้ำมันแพงขึ้นส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเช่นกัน
นอกจากนี้ เศรษฐกิจของอิตาลียังเจ็บตัวหนักเมื่อเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ส่วนอุปสงค์ในหลายภาคส่วนก็หดตัวลงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ยืดเยื้ออยู่นาน
อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว ราคาที่ตกฮวบลงมาอย่างมาในเวลานั้นส่งสัญญาณบอกว่า อิตาลีน่าจะได้เห็นตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนก.ย.ปีนี้เพิ่มสูงขึ้นผิดปกติอีกครั้งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา
“นี่อาจจะไม่ใช่ปรากฎการณ์ที่กินเวลาเพียงเดือนเดียว" ไอเอลโลกล่าว
ภาวะเงินเฟ้อที่เกินคาดขนาดนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลกำลังพุ่งเป้ากับการรับมือกับวิกฤตการเงินในด้านอื่นๆอยู่พอดี
เมื่อเดือนก.ค. รัฐบาลผ่านร่างนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4.6 หมื่นล้านยูโร และกำลังลงในรายละเอียดอยู่ในขณะนี้
ขณะเดียวกัน แผนการเพิ่มรายได้จากการเก็บภาษีด้วยการเพิ่มเก็บภาษีบุคคลทั่วไปที่มีรายได้สูงกว่า 9 หมื่นยูโรต่อไป ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีบริษัทในธุรกิจพลังงานก็ดำเนินมาจนถึงจุดแตกหักในรัฐบาลแล้ว
นายจูลิโอ เทรมอนติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสนับสนุนนโยบายการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอย่างเปิดเผย แต่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนีกลับล้มแผนขึ้นภาษีคนรวยเอาเสียดื้อๆ เพียงเพื่อที่จะตีกรอบอำนาจของนายเทรมอนติไปพร้อมๆเรียกคะแนนนิยมที่ด่ำดิ่งของตัวเองกลับคืนมา
ความพยายามของรัฐบาลที่จะลดปริมาณการใช้จ่ายดังที่ได้ระบุไว้ในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปลอบขวัญบรรดานักลงทุนผู้หวาดผวาไปกับตัวเลขหนี้สินของประเทศ ซึ่งสูงถึง 120% ของจีดีพี ท่วมท้นเสียจนอาจจะนำพาประเทศเข้าสู่ภาวะความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรรัฐบาลได้
ท่ามกลางสถานการณ์อันยุ่งยากซับซ้อนตลอดระยะเวลาหลายวันและหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ความหวังเดียวที่ปรากฎคือ ปริมาณหนี้สินไม่ได้สูงอย่างที่วิตกกังวลกันอีกต่อไปแล้ว
ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผลตอบแทนจากพันธบัตรอายุ 30 ปีของรัฐบาลอิตาลีขยับลดลงมา หลังจากที่เคยสูงทุบสถิติตลอดกาลไปเมื่อต้นเดือนส.ค. ข่าวดีนี้มาพร้อมๆความสนใจจากนานาชาติที่เริ่มเบนสายตาจากสภาวะเศรษฐกิจในอิตาลีกลับไปจับจ้องปัญหาระยะยาวต่างๆแทน เช่น อายุในวัยเกษียณ งบประมาณการใช้จ่ายและนโยบายรัฐบาลระยะยาวอื่นๆ
บทวิเคราะห์โดยเอริค เจ ลายแมน สำนักข่าวซินหัว