สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาทองคำ เพราะผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) ตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.055% ปิดที่ 1,808.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 33.20 เซนต์ ปิดที่ 40.469 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ระดับ 3.7640 ดอลลาร์/ปอนด์ หรือเพิ่มขึ้น 1%
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,788.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 712.85 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพราะผิดหวังที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการ QE3 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่เลือกใช้มาตรการ Operation Twist ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุการไถ่ถอน 6-30 ปีวงเงินรวม 4 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกับขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่า ในวงเงินที่เท่ากัน โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า นักลงทุนคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจจะใช้มาตรการ QE3 เพราะ QE3 จะทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง และจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำให้คึกคักขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในระยะยาว อันเนื่องมาจากปัจจัยหนุนหลายด้าน รวมถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งความกังวลในเรื่องเหล่านี้จะยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ