นางสาวเพียงใจ แก้วสุวรรณ รองผู้จัดการใหญ่ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท นิสสันมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทขอรอประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในไทยอีกประมาณ 1 สัปาดห์ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะหยุดผลิตรถยนต์เป็นการชั่วคราวหรือไม่ หลังเริ่มมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายแห่งหยุดผลิตและส่งมอบไปแล้ว หากบริษัทหยุดผลิตก็คาดว่าจะดำเนินการในระยะเวลาใกล้เคียงกับค่ายรถอื่น
"โรงงานผลิตของเราอยู่ในเขตภาคตะวันออก ซึ่งน้ำกำลังจะมา ตอนนี้ก็พยายามป้องกันให้แข็งแรงมากที่สุด คิดว่าไม่น่าจะท่วม และถ้าโรงงานผลิตยังอยู่ดี ก็ต้องมาดูแผนการผลิตจะกระทบไหม เพราะตอนนี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนหลายรายได้มีการหยุดผลิตแล้ว ซึ่งเราก็อาจจะหยุดผลิตตาม"นางสาวเพียงใจ กล่าว
สำหรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 54 ที่ตั้งเป้าไว้ 1.8 ล้านคัน อาจจะลดลงเล็กน้อย แตค่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นเท่าไร ขอรอให้เหตุการณ์คลี่คลายน่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น
ทั้งนี้ใน่ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดผลิตรถยนต์รวมทั้งประเทศ จำนวน 1.2 ล้านคัน
นางสาวเพียงใจ เชื่อว่า เหตุการณ์น้ำท่วมจะกระทบต่ออุตสาหกรรมระยะสั้นและคงใช้เวลาฟื้นตัวภายใน 2-3 เดือน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น คงจะไม่ย้ายฐานการผลิตออกจากไทย เพราะเป็นเหตุภัยธรรมชาติ และมีประสบการณ์จากเหตุสึนามิเมื่อช่วงต้นปี ชณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยยังมีอนาคตเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาเติบโตปีละ 10-15% มาโดยตลอด
นายอานุภาพ ทัดพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจ บริษัท ฟอร์ด โอเปอร์เรชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วันนี้โรงงานผลิตรถยนต์ของฟอร์ด ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้กลับมาผลิตแล้วส่วนหนึ่ง คือเพียง 1 กะ หลังจากได้หยุดผลิตชั่วครา เมื่อ 11-12 ต.ค.เพื่อตรวจเช็คสต็อกสินค้า และยืนยันได้ว่าบริษัทมีสต็อกเพียงพอที่จะส่งมอบให้ลูกค้า
จากเหตุการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ประมาณ 180 โรงงานต้องปิดทำการชั่วคราว ในจำนวนนี้เป็นผุ้ผลิตชิ้นส่วนของรถยนต์ฟอร์ด จำนวน 7 โรงงาน
"สถานการณ์น้ำท่วม คงไม่ได้กระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนของฟอร์ดในประเทศไทย แต่การที่เราหยุดการผลิตก็คงกระทบต่อผลประกอบการแน่นอน แต่จะมากน้อยแค่ไหน ขอรอประเมินอีกทีหลังน้ำลด ส่วนยอดการผลิตของฟอร์ด เชื่อว่าไม่น่าจะลดลง" นายอานุภาพ กล่าว