นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอจัดตั้งกองทุน Infrastructure Fund ระดมทุนเงินจากประชาชนให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์ เพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานหลังจากการเกิดอุทกภัยในนิคมอุตสาหกรรม 6-7 แห่ง
กองทุนดังกล่าวจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกำหนดมาตรการจูงใจให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีเงินปันผล อย่างไรก็ตาม สำหรับการกำหนดขนาดของกองทุนยังจะต้องหารือกับหลายหน่วยงานก่อน
อนึ่ง ในวันนี้ได้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วงเงิน 500 ล้านบาท ซึ่งมีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เป็นหน่วยงานหลักที่จะรวบรวมเงินกองทุนจากภาคธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน โดย ตลท.จะลงเงินจำนวน 250 ล้านบาท และที่เหลือ 250 ล้านบาทจะมาจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน
นายธีระชัย กล่าวว่า เงินทุนก้อนแรก 250 ล้านบาทที่ได้จาก ตลท.จะนำไปซื้อเครื่องสูบน้ำในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับภัยน้ำท่วม และทำพนังกั้นน้ำ เพื่อเร่งกู้ฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมเหล่านั้นได้กลับมาดำเนินการได้เร็วที่สุด
"เป้าหมายแรกที่สำคัญที่สุด ต้องฟื้นคืนความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศในนิคมฯ ให้เต็มที่ โดยคลังพร้อมจะพิจารณาข้อเสนอที่จะสนับสนุนกระบวนการต่างๆ เต็มที่" รมว.คลัง กล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อกำหนดให้นิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งจะต้องลงทุนสร้างเขื่อนถาวรเป็นคอนกรีตระดับสูงกว่าระดับน้ำที่ท่วมในปีนี้ และมีความแข็งแรงเพียงพอ นอกเหนือจากที่กองทุน Infrastructure Fund จะเข้าไปลงทุน ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมจากนิคมอุตสาหกรรมฯ
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังจะหารือกับบริษัทประกันภัยเพื่อให้จ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายให้เร็วที่สุด