"ธีระชัย"สั่งสรรพากรเพิ่มบทบาทเป็นผู้ตรวจสอบ-นักวิชาการวางระบบภาษีพัฒนาปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 20, 2011 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยว่า หลังการตรวจเยี่ยมกรมสรรพากรได้มอบนโยบายการทำงานในระยะต่อไปที่กรมสรรพากรจำเป็นต้องมีหน้าที่ตรวจสอบการจัดเก็บภาษีว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเดิมเป็นการทำงานโดยเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรโดยลำพัง แต่จากนี้เห็นว่าควรที่จะอาศัยการทำงานของผู้ตรวจสอบบัญชี ให้มีการประสานการทำงานโดยให้มีการจัดประชุมระหว่างกรมสรรพากรกับหน่วยงานกำกับดูแลผู้ตรวสอบบัญชีอย่างเป็นประจำ เพื่อให้กรมสรรพากรยกระดับการทำงาน ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบผู้สอบบัญชี

นอกจากนี้ให้กรมสรรพากรเพิ่มบทบาทด้านวิชาการ โดยการศึกษามาตรการภาษีเพื่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการวางกฎระเบียบที่รองรับการพัฒนาตลาดทุนซึ่งมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโดยตลอด

ส่วนการปฎิรูปโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ซึ่งธนาคารโลกได้มีผลการศึกษาระบบภาษีและให้คำแนะนำในการปฎิรูปโครงสร้างภาษี ซึ่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการหักลดหย่อนภาษี ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคล รัฐบาลได้ดำเนินการปรับลดภาษีเหลือ 23% ในปี 55 และจะการทบทวนสิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนให้สอดคล้องกัน

"การปฎิรูปโครงสร้างภาษีในหลายๆด้านเป็นโจทย์ใหญ่ที่กระทรวงการคลังและทุกกรมภาษีต้องทำแผนปฎิบัติการเกี่ยวกับระยะเวลา และมีข้อสรุปแนวคิดทางวิชาการโดยเร็ว และให้มีการจัดสัมมนาเผยแพร่ข้อมูล เพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งภาคการเมือง ภาคธุรกิจ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปให้เป็นที่ยอมรับ" นายธีระชัย กล่าว

ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างภาษีในแต่ละเรื่อง ซึ่งในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีรายละเอียดที่ต้องพิจารณา เช่น การแยกยื่นภาษีเงินได้ของสามี ภรรยา การปรับปีบัญชีภาษีตามผู้ตรวสอบ และผู้จ่ายภาษี ซึ่งภาคเอกชนเรียกร้องปรับให้เป็นรอบเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มช่วงการเสียภาษี ระหว่างผู้มีรายได้สูง รายได้ปานกลาง และรายได้น้อย และการหักลดหย่อนภาษีเงินได้ที่มี 2-3 ประเด็นที่ต้องพิจารณา

ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลหลังรัฐบาลปรับลดภาษีจาก 30% เหลือ 23% ในปี 55 ซึ่งเป็นอัตราเทียบเท่าประเทศในอาเซียนและเพิ่มการแข่งขันได้ และสามารถทำให้มีการขยายฐานภาษีได้มากขึ้น แต่จะต้องมีการปรับลดสิทธิประโยชน์บีโอไอให้สอดคล้องกัน ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้หารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอัตราภาษีและเป้าหมายในการขยายฐานภาษีต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ