คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนระบุว่า อุปสงค์ถ่านหินภายในกรุงปักกิ่งในช่วงฤดูหนาว (พ.ย. — มี.ค.) คาดว่า จะสูงถึง 13.3 ล้านตัน โดยเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
มีการคาดการณ์ว่า ถ่านหินจำนวน 5 ล้านตันจะถูกนำไปใช้เพื่อผลิตไฟฟ้า 5.6 ล้านตันผลิตพลังงานความร้อน และ 2.7 ล้านตันเพื่อการใช้สอยภายในบ้านเรือน ซึ่งคิดเป็น 37%, 43%, และ 20% ของทั้งหมดตามลำดับ
หน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจยังระบุว่า ปักกิ่งจำเป็นต้องมีการเก็บตุนปริมาณถ่านหินให้เพียงพอสำหรับช่วงสูงสุดของฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง เพราะว่าปริมาณถ่านหินนั้นตึงตัวตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา สืบเนื่องจากการบูรณาการทรัพยากรในพื้นที่ผลิตถ่านหินบางพื้นที่ ซึ่งกระตุ้นอุปสงค์ถ่านหินของภูมิภาคใกล้เคียงให้เพิ่มขึ้นและส่งผลให้ช่องว่างระหว่างราคาถ่านหินผลิตภัณฑ์ และราคาถ่านหินพลังงานเพิ่มสูงขึ้น
-- เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนออกกฏข้อบังคับเรียกเก็บภาษีเข้ากองทุนพัฒนาถ่านหินจากบริษัทถ่านหินในภูมิภาค
ตามกฏข้อบังคับดังกล่าว บริษัทถ่านหินจำเป็นต้องจ่ายเงิน 15 หยวน/เมตตริกตันสำหรับถ่านหินพลังงานและ 20 หยวน/เมตตริกตันสำหรับถ่านหินโค้กเพื่อเป็นเงินสำรองให้กับกองทุนพัฒนาถ่านหิน
อย่างไรก็ตาม สำหรับทรัพยากรถ่านหินเพื่อใช้ในโครงการเคมีถ่านหินและพลังงานภายในเขตซินเจียง กองทุนพัฒนาถ่านหินจะเก็บเพียงแค่ 40% จากเกณฑ์มาตราฐานที่ 15 หรือ 20 หยวน/ตัน
บริษัทถ่านหินซึ่งไม่ว่าจะยื่นขอหรือได้รับใบอนุญาตประกอบการขุดเหมืองถ่านหินก่อนหน้าที่จะมีการประกาศกฎระเบียบดังกล่าวออกมา จำเป็นต้องจ่าย 5 หยวน/ตันมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
นอกจากนี้ สำหรับบริษัทใหม่ซึ่งยื่นขอพัฒนาทรัพยากรถ่านหินนั้น อย่างน้อย 60% ของทรัพยากรถ่านหินต้องถูกนำไปใช้ในโครงการเคมีถ่านหินและพลังงานภายในเขตซินเจียง สำนักข่าวซินหัวรายงาน