ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เผยเงินเฟ้อในสิงคโปร์อาจจะยังคงอยู่ในระดับสูง ก่อนที่จะชะลอตัวลงช่วงกลางปีหน้าเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว
MAS ระบุในรายงาน Macroeconomic Review ประจำเดือนต.ค.ว่า ภาวะเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยสูงกว่า 5% ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้และอาจจะลดลงประมาณ 4% ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งอาจจะชะลอตัวลงต่อไปถึง 2% ในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า
รายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์อาจจะเผชิญกับภาวะผันผวนมากในไตรมาสที่จะถึง ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า
ทั้งนี้คาดว่า สิงคโปร์อาจจะเติบโตต่ำกว่าอัตราที่เป็นไปได้ในช่วง 3-5% ในปีหน้า เนื่องจากประเทศคู่ค้ายังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจยังไม่ถึงกับภาวะตกต่ำเมื่อครั้งเกิดวิกฤตทางการเงินปี 2551
รายงานระบุว่า การเติบโตที่ชะงักงันอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ไตรมาสหน้า ตามมาด้วยการฟื้นตัวปานกลางในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า โดยภาคธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต ศูนย์การขนส่ง ภาคการเงินและการท่องเที่ยว
การขยายตัวของการจ้างงานคาดว่าจะชะลอตัวลงเช่นกัน โดยบางบริษัทในภาคการเงินและที่เกี่ยวข้องกับการค้าได้ปรับลดแผนการว่าจ้างพนักงานใหม่แล้ว
แรงกดดันเงินเฟ้ออาจจะอ่อนตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว แรงกดดันด้านต้นทุนภายในประเทศก็จะทุเลาลงเช่นกันเนื่องจากภาวะตึงตัวของตลาดแรงงานค่อยๆผ่อนคลายลง นอกจากนี้ แรงกดดันด้านราคาจากภายนอกจะชะลอตัวลง เนื่องจากการคาดการณ์ราคาน้ำมันโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
ตลอดทั้งปี 2554 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสิงคโปร์คาดว่า จะอยู่ประมาณ 5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงต้นทุนที่อยู่อาศัย จะอยู่ที่ 2% โดยในปีหน้าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ 2.5 — 3.5% ขณะที่อัตราเงินเฟื้อพื้นฐานคาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 — 2 % สำนักข่าวซินหัวรายงาน