คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบมา ประกาศแผนการผลักดันให้ภาคเอกชนภายในประเทศปรับเพิ่มการจ้างงาน รวมทั้งการผลักดันให้หน่วยงานของรัฐอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนเทคโนโลยีในภาคเอกชน และให้ความช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและกลุ่มผู้ส่งออกให้สามารถเข้าถึงการบริการของภาครัฐบาลได้ง่ายขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แผนการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการสร้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นแผนการที่เพิ่มเติมจากร่างกฎหมายกระตุ้นการสร้างงานฉบับใหม่ (American Jobs Act) ที่ประธานาธิบดีโอบามาต่อสภาคองเกรสสหรัฐเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา
ความพยายามของคณะทำงานโอบามามีขึ้นนับตั้งแต่อัตราว่างงานของสหรัฐเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 9% ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้โอบามาตัดสินใจเสนอร่างกฎหมาย American Jobs Act ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ครูอาจารย์ สัตว์แพทย์ และการสร้างงานมากขึ้นให้กับผู้ที่ตกงานมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้ แผนดังกล่าวจะลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทต่างๆที่จ้างพนักงานใหม่ และจะลดภาษีเงินได้กับพนักงานชาวอเมริกันทุกคน และธุรกิจขนาดเล็กทุกแห่ง
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถผ่านการลงมติรอบแรกของวุฒิสภา เนื่องจากมีคะแนนโหวตไม่ถึง 60 เสียง อันเนื่องมาจากวุฒิสภาชิกบางคนได้ออกมาเสียงคัดค้านแผนการขึ้นภาษีคนรวยที่รวมอยู่ในแผนกระตุ้นการจ้างงานฉบับนี้ด้วย
อัตราว่างงานที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 9.1% กำลังสร้างแรงกดดันให้กับโอบามาที่กำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อยู่ในเวลานี้ เพราะจากประวัติศาสตร์ของสหรัฐระบุว่า ยังไม่มีประธานาธิบดีคนใดของสหรัฐที่สามารถชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ได้ในช่วงที่อัตราว่างงานภายในประเทศเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับ 9.1%