นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ถึงการทำหน้าที่รองเลขาธิการ และรักษาการเลขาธิการ กสทช.ว่า ตำแหน่งรองเลขาธิการมีการต่ออายุไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างประธานกรรมการ กสทช.กับรองเลขาธิการ เพราะตามระเบียบ กสทช.ตำแหน่งนี้ขึ้นตรงกับประธานฯ ดังนั้น การต่ออายุเป็นหน้าที่ของประธานโดยตรง
"ใครจะเป็นเลขาฯก็ได้ผมไม่ได้สนใจ ชีวิตคนเราการเป็นเบอร์สองให้เบอร์หนึ่งใช้งานดีที่สุด เมื่อตอนนี้ไม่มีเบอร์หนึ่งก็ต้องรักษาการ ผมรักษาการมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ปี 2563 ก่อนบอร์ดชุดนี้จะมาในปี 2565 ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร การที่ประธานต่ออายุให้ผมเป็นเรื่องธรรมชาติ"นายไตรรัตน์ กล่าว
ส่วนการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ กสทช. ขณะนี้อยู่ระหว่างการตกลงส่วนต่างค่าก่อสร้างโครงการจากที่ผู้รับเหมารายเดิมได้ก่อสร้างไปแล้ว 75% และ กสทช.ชำระค่าก่อสร้างไปแล้ว 60% จึงต้องหาข้อสรุปให้ได้ก่อนว่าส่วนต่างอีก 15 % ที่ กสทช.จะต้องจ่ายเป็นเงินเท่าใด เมื่อได้ข้อสรุปเรื่องนี้แล้วจึงจะประกวดราคาหาผู้รับผิดชอบโครงการรายใหม่เข้ามาสร้างต่อ
"โครงการเหลืออีกไม่มาก อยู่ที่การหาข้อสรุปเรื่องส่วนต่างให้ได้แล้วจ่ายไปให้จบ ประกวดราคาใหม่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะใช้เวลาภายใน 20 เดือน โครงการน่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า (2569) เนื่องจากโครงสร้างเสร็จแล้วเหลือแต่การตบแต่ง"นายไตรรัตน์ กล่าว
ขณะที่รายงานข่าวจาก กสทช.เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ กสทช.วันนี้ที่มีวาระพิจารณาที่สำคัญ คือ การต่ออายุสัญญารองเลขาธิการ กสทช. 2 คน ได้แก่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล และ นายสุทธิศักดิ์ ตันยะโยธิน รวมถึงประเด็นที่ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) ส่งหนังสือคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของ นางพิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ไม่ให้ร่วมพิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม TRUE เนื่องจากมีคดีอยู่ในศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
แต่ช่วงเช้าเกิดเหตุหม้อแปลงระเบิดทำให้ไฟดับทั้งสำนักงาน กสทช. จึงจำเป็นต้องยุติการประชุมและเลื่อนการพิจารณาไปเป็นสัปดาห์หน้า