
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไป และลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.68 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินโลก ที่ปรับสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าประเทศเศรษฐกิจหลัก และแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการเติบโตของภาคธุรกิจไทย
นอกเหนือจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2567 EXIM BANK ยังมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าชั้นดีที่ร่วมเติบโตมากับ EXIM BANK ด้วยส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษถึง 1.00% ต่อปี เริ่มต้น 3.10% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่แสดงความจำนงภายในวันที่ 31 พ.ค.68 และเบิกกู้ระหว่างเดือนมิ.ย.-สิ.ค.68
พร้อมกันนั้น EXIM BANK ยังคงดำเนินโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้และต้นทุนทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้จัดตั้ง Export Clinic เพื่อให้คำปรึกษาและข้อมูลแก่ผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Reciprocal Tariffs โดยสอดคล้องกับพันธกิจของ EXIM BANK ในการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจการค้าและการลงทุน ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน มีสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจ สามารถปรับตัวรับมือกับปัจจัยท้าทาย และแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน