นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ มีกำหนดการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร และราชรัฐโมนาโก ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค. 68
โดยการเดินทางครั้งนี้ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งส่วนราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เปิดช่องทางขยายตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย ผ่าน Soft Power ด้านอาหาร กีฬา การท่องเที่ยว ซึ่งสหภาพยุโรปเป็นตลาดที่สำคัญของสินค้าของไทย
- วันที่ 21 พ.ค. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โฉมใหม่ ซึ่งภายในงาน มีการจัดแสดงสินค้าอาหารไทย ผลไม้ ข้าวหอมมะลิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ศิลปวัฒนธรรม การนวดแผนไทย และการแสดงมวยไทย
โดยนายกรัฐมนตรีจะร่วมประชุมกับ "ทีมไทยแลนด์" และผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ต่อด้วยสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร (Association of Thai Businesses in the UK) เพื่อหาแนวทางขยายตลาดและเพิ่มมูลค่าการค้าสินค้าอาหารไทย โดยเฉพาะผัก ผลไม้สดและข้าวหอมมะลิ ในสหราชอาณาจักร และยุโรป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะมอบประกาศนียบัตร Thai SELECT แก่ร้านอาหารไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 115 ร้าน และรับฟัง แนวทางในการพัฒนากับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยในสหราชอาณาจักร
นายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมชมค่ายมวยไทยที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร รวมถึงการผลักดันระบบการรับรองมาตรฐานเทรนเนอร์ ผู้ฝึกสอนมวยไทยในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งมิติของ Soft Power ด้านกีฬา
- วันที่ 22 พ.ค. 68 นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมกิจกรรม In-store Promotion และประชาสัมพันธ์สินค้าไทย ณ ห้างค้าปลีก Wing Yip Superstore สาขา Cricklewood ซึ่งเป็นซูเปอร์สโตร์รายใหญ่ของสหราชอาณาจักรที่นำเข้าสินค้าอาหารจากเอเชียกว่า 4,500 รายการ และกว่า 1,000 รายการจากประเทศไทย โดยในปี 67 ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารไปยังสหราชอาณาจักรมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของการส่งออกสินค้าไทยไปยังสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะหารือร่วมกับผู้อำนวยการด้านการท่องเที่ยวภาคพื้นยุโรป เพื่อมอบนโยบายและแลกเปลี่ยนมุมมอง และผลักดันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของไทยให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน
- วันที่ 23 พ.ค. 68 นายกรัฐมนตรีจะเดินทางจากกรุงลอนดอน ไปยังเมืองมอนติคาร์โล ราชรัฐโมนาโก เพื่อร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง Formula 1 เพื่อศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการจัดการแข่งขัน F1 รูปแบบในเมือง (City Circuit) ในประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรียังได้รับเชิญให้เยี่ยมชมสนามแข่งและร่วมรับชมการแข่งขัน Formula 1 Tag Heuer Monaco Grand Prix ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ที่สามารถสร้างรายได้ในรูปแบบที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น
"การเดินทางครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเป็นการผลักดันนโยบายเชิงรุก ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การส่งออก การท่องเที่ยว และ Soft Power เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในสายตานานาชาติ โดยเฉพาะในตลาดสหราชอาณาจักรและยุโรป ซึ่งมีศักยภาพสูง โดยนายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นดึงดูดและส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดทางให้ผู้ประกอบการของไทยได้ขยายพื้นที่ทางการค้าบนเวทีโลกอย่างยั่นยืน" นายจิรายุ กล่าว