เอกชนไทย-อินโดฯ ลงนาม MOU เสริมแกร่งการค้า-การลงทุน วางรากฐานการเติบโตอาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 19, 2025 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เอกชนไทย-อินโดฯ ลงนาม MOU เสริมแกร่งการค้า-การลงทุน วางรากฐานการเติบโตอาเซียน

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งอินโดนีเซีย (Indonesian Chamber of Commerce and Industry หรือ KADIN) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) เพื่อยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ภายในงาน CEO Forum Indonesia-Thailand ในโอกาสที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

สำหรับบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ได้แก่

เอกชนไทย-อินโดฯ ลงนาม MOU เสริมแกร่งการค้า-การลงทุน วางรากฐานการเติบโตอาเซียน

- การส่งเสริมการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

- การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านธุรกิจ การค้า การลงทุน และเศรษฐกิจ

- การร่วมมือในการจัดและเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การประชุม และกิจกรรมส่งเสริมการค้า

- การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนธุรกิจ และการสนับสนุนการเยือนระหว่างผู้ประกอบการ

ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นระหว่างหอการค้าไทย และ KADIN จะช่วยส่งเสริมการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างกัน รวมถึงร่วมกันแสวงหาแนวทางใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม

การลงนามในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของภาคเอกชนไทย และอินโดนีเซีย ในการร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม และเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคตของทั้งสองประเทศ

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยและอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียน จำเป็นต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาค รองรับการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์เศรษฐกิจ และการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


นอกจากนี้ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานอาวุโสหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังได้เข้าร่วมกิจกรรม CEO Forum Indonesia - Thailand ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, KADIN และการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ ในการเสริมพลังความร่วมมือภาคเอกชนใน 4 สาขาหลัก ได้แก่ (1) บริการทางการเงิน (2) พลังงาน (3) เกษตรกรรมและอาหาร (4) การค้าและภาคธุรกิจ สู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของภูมิภาค

โดยในการประชุม CEO Forum ได้มีการเชิญผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน และผู้มีบทบาทสำคัญจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่มีศักยภาพสูงในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ อาทิ ธนาคารกรุงเทพ, เอสซีจี, บ้านปู, กลุ่มมิตรผล, ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม, บีกริมม์, อินโดรามา, ไมเนอร์กรุ๊ป, ธนาคารกสิกรไทย และ PT Permata Bank Tbk เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงกลยุทธ์ เสริมสร้างความร่วมมือ และผลักดันแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนในการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและอินโดนีเซีย

เวทีหารือนี้ มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผู้นำภาคเอกชน สร้างพลังร่วมของภาคเอกชนทั้งสองประเทศในการสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงาน ความมั่นคงทางอาหาร และเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาค เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศไปสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน

การเข้าร่วมของรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณทางการเมืองที่สำคัญถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสองรัฐบาล ในการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และความมั่งคั่งของภูมิภาคอาเซียนโดยรวม

นอกจากนี้ การประชุม CEO Forum ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือของภาคเอกชนระหว่างไทยและอินโดนีเซีย ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงบทบาทนำของทั้งสองประเทศ ในการร่วมกันผลักดันอาเซียนสู่ภูมิภาคที่มีความมั่นคง แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และภูมิรัฐศาสตร์โลกในอนาคต

ทั้งนี้ อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 8 โดยในปี 2567 มูลค่าการค้ารวม 643,944 ล้านบาท (ขยายตัว 1.19% จากปี 2566) โดยทั้งสองประเทศต่างมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิต การส่งออก และศูนย์กลางการเชื่อมโยงภูมิภาคในหลายอุตสาหกรรม อาทิ อาหารและเกษตรแปรรูป พลังงานหมุนเวียน ยานยนต์และชิ้นส่วน การท่องเที่ยว สุขภาพ และเศรษฐกิจดิจิทัล



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ