ส.อ.ท. เล็งปรับเป้าใหม่ช่วงกลางปี หลังยอดผลิต-ส่งออกยังซบเซา รอความชัดเจนมาตรการภาษีสหรัฐ

ข่าวยานยนต์ Thursday May 22, 2025 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ส.อ.ท. เล็งปรับเป้าใหม่ช่วงกลางปี หลังยอดผลิต-ส่งออกยังซบเซา รอความชัดเจนมาตรการภาษีสหรัฐ

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะโฆษกฯ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ เดือนเม.ย. 68 ว่า แม้ยอดขายรถยนต์ในประเทศจะขยับขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในยังคงซบเซา โดยเฉพาะการส่งออกที่ลดลงต่อเนื่อง รวมถึงยอดผลิตที่ต่ำสุดในรอบ 44 เดือนจากความต้องการทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัว

"ขอเวลาอีก 1-2 เดือนจะเห็นความชัดเจนเรื่องการเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ แต่คิดว่าน่าจะมีการปรับเป้าในช่วงกลางปี สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงที่ต้องจับตาดูต่อไปอีก 2-3 ปีจึงจะบอกได้ว่าพ้นจากวิกฤตหรือไม่" นายสุรพงษ์ กล่าว

*ยอดส่งออก เม.ย.หดตัว 6.31%-เริ่มส่งออก BEV เป็นเดือนแรก

ในเดือนเม.ย. 68 ส่งออกได้ 65,730 คัน ลดลงจากเดือน มี.ค. 18.77% และลดลง 6.31% จากเดือนเม.ย. 67 เพราะมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่นและการเข้มงวดในเรื่องเทคโนโลยีช่วยเหลือเรื่องความปลอดภัยและการปล่อยคาร์บอนในบางประเทศคู่ค้า จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ

แต่เริ่มมีการส่งออกรถยนต์นั่ง BEV 660 คัน มีสัดส่วน 1.43% ของการส่งออกทั้งหมด จากในปี 67 ไม่มีการส่งออก ส่วนรถยนต์ HEV ส่งออกเพิ่มขึ้น 87.96% จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ คงต้องติดตามผลการเจรจาของประเทศไทยและประเทศคู่ค้าสำคัญของประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาต่อไป

สำหรับมูลค่าส่งออก 59,893 ล้านบาท ลดลง 13.54% จากเดือนเม.ย.67 ขณะที่มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 59,893.19 ล้านบาท ลดลง 13.54% จากเดือนเม.ย.67

ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.68) อยู่ที่ 290,288 คัน ลดลง 14.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมูลค่าการส่งออกรวม 273,187.64 ล้านบาท


*ยอดผลิตลด 0.41% ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเม.ย. 68 อยู่ที่ 104,250 คัน ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน ลดลง 19.75% จากเดือนมี.ค.68 และลดลง 0.40% จากเดือนเม.ย. 67 ซึ่งการผลิตในเดือนเม.ย.ลดลงไม่มาก เพราะมีการผลิตรถยนต์นั่งและรถ SUV ไฟฟ้าทั้ง BEV PHEV และ HEV ในประเทศมากขึ้นเพิ่มขึ้น 639.75% 319.11% 35.31% ตามลำดับ แต่ผลิตรถยนต์นั่งสันดาปภายในลดลง 33.60% เพราะผลิตรถยนต์นั่งส่งออกลดลงถึง 36.93% เนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์บางรุ่น รถกระบะยังคงผลิตลดลง 3.06 % เพราะผลิตขายในประเทศลดลง33.16% ตามยอดขายรถกระบะในประเทศที่ยังคงลดลง 22.25% ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 456,749 คัน ลดลง 11.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

"ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เลยว่ามีการผลิตรถไฟฟ้าเพื่อส่งออกได้แล้วจำนวน 660 คัน" นายสุรพงษ์ กล่าว

*ยอดขายโตได้อานิสงส์ยอดขาย EV หนุน แต่รถกระบะ ยังวูบ

ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนเม.ย.68 มีจำนวนทั้งสิ้น 47,193 คัน ลดลง 15.42% จากเดือนมี.ค.68 แต่เพิ่มขึ้น 0.97% จากเดือนเม.ย.67 จากการขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายรถกระบะและรถ PPV ยังคงลดลง 21.7% และ 20.5% ตามลำดับจากมาตรการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ เพราะดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงลดลง 3.83% การลงทุนภาคเอกชนไตรมาสหนึ่งปีนี้ลดลง และจากค่าครองชีพที่ยังสูง ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง

"การปล่อยสินเชื่อยังมีมาตรการที่เข้มงวด และ NPL มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น โดยผู้ที่ขอสินเชื่อกว่า 50% ได้รับการปฏิเสธ" นายสุรพงษ์ กล่าว

*ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง เม.ย.68

- ประเภท BEV มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 8,029 คัน เพิ่มขึ้น 32.91% จากเดือนเม.ย.67 ส่งผลให้ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 40,020 คัน เพิ่มขึ้น 11.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับถึงวันที่ 30 เม.ย.68 มียอดจดทะเบียนสะสมจำนวนทั้งสิ้น 266,863 คัน เพิ่มขึ้น 59.48% จากปีที่แล้ว

- ประเภท HEV มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 10,476 คัน เพิ่มขึ้น 0.60% จากเดือนเม.ย.67 ส่งผลให้ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 48,641 คัน เพิ่มขึ้น 0.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับถึงวันที่ 30 เม.ย.68 มียอดจดทะเบียนสะสมจำนวนทั้งสิ้น 517,573 คัน เพิ่มขึ้น 32.13% จากปีที่แล้ว

- ประเภท PHEV มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 3,288 คัน เพิ่มขึ้น 414.55% จากเดือนเม.ย.67 ส่งผลให้ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีจดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 7,420 คัน เพิ่มขึ้น 121.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับถึงวันที่ 30 เม.ย.68 มียอดจดทะเบียนสะสมจำนวนทั้งสิ้น 70,534 คัน เพิ่มขึ้น 23.16% จากปีที่แล้ว

"ยอดขายรถ EV ปีนี้น่าจะถึงแสนคัน จากเป้าที่ตั้งไว้ 7-8 หมื่นคัน หลังมีการนำเข้ารถที่มีราคาถูกกว่าเดิม" นายสุรพงษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ