นายกฯ ถกภาคเอกชนรายใหญ่ ดันสินค้าเกษตร-อาหารไทย สร้างมูลค่าในสหภาพยุโรป

ข่าวการเมือง Friday May 23, 2025 13:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฯ ถกภาคเอกชนรายใหญ่ ดันสินค้าเกษตร-อาหารไทย สร้างมูลค่าในสหภาพยุโรป

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ประชุม ร่วมกับภาคเอกชนและผู้นำเข้าสินค้ารายสำคัญของสหราชอาณาจักร ณ กรุงลอนดอน อาทิ Selfridges, CP Intertrade, Boonrod Brewery (Singha), Chang Beer, Thai Tana, Asco, Manning Impex, Patara Restaurants และ Bangkok Bank (PLC)

นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังและหารือร่วมกันกับภาคเอกชน เพื่อผลักดันการขยายมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรและอาหารของไทย การเพิ่มช่องทางการนำเข้าสินค้าอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ ตลอดจนการผลักดันการจัดทำ FTA เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสินค้าเกษตรและอาหาร และลดอุปสรรคทางการค้า เช่น สินค้าไก่แปรรูป ตลอดจนการเข้าไปประกอบวิชาชีพในสหราชอาณาจักรของพ่อครัว แม่ครัว และพนักงานนวดแผนไทย ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการท้องถิ่น รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อเข้ามาลงทุนในสหราชอาณาจักรมากขึ้น

นายกฯ ถกภาคเอกชนรายใหญ่ ดันสินค้าเกษตร-อาหารไทย สร้างมูลค่าในสหภาพยุโรป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะทีมประเทศไทย ร่วมกันผลักดันให้การค้าและการลงทุนกับสหราชอาณาจักรขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อไปสู่การเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งการจัดทำความตกลงการค้าเสรีร่วมกันต่อไปในอนาคต รวมทั้งทุกประเทศในสหภาพยุโรปอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ในปี 67 สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป การค้ารวมระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรมีมูลค่า 6,657.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-2.31%) โดยเป็นการส่งออกมูลค่า 4,195.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (7.06%) และเป็นการนำเข้า 2,461.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-16.63%)

นายกฯ ถกภาคเอกชนรายใหญ่ ดันสินค้าเกษตร-อาหารไทย สร้างมูลค่าในสหภาพยุโรป

สำหรับสินค้าส่งออก 5 อันดับแรกที่ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรได้แก่ ไก่แปรรูป (809.78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล (444.32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อัญมณีและเครื่องประดับ (395.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ (289.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (263.93 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

โดยสินค้าในหมวดอาหารที่ไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักรมากที่สุด ได้แก่ ไก่แปรรูป ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น สิ่งปรุงรสอาหารอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เนื้อสัตว์และของปรุงแต่งที่ทำจากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ข้าว ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง และเครื่องดื่ม

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานกิจกรรมประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โฉมใหม่ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ร้านอาหาร Thai SELECT จำนวน 20 ราย เพื่อผลักดันนโยบายส่งเสริม Soft Power ของรัฐบาลไทยในสาขาอาหาร ขยายบทบาทอาหารไทยสู่เวทีโลก

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงแนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power โดยเฉพาะ "อาหารไทย" ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทั้งด้านรสชาติ คุณภาพ และความพิถีพิถันในการปรุง พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายร้านอาหารไทยในต่างประเทศให้เป็นด่านหน้าในการเผยแพร่อัตลักษณ์ไทยควบคู่กับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ภายหลังพิธีมอบประกาศนียบัตร นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกิจกรรมสาธิตการทำอาหารไทย เมนู "เมี่ยงคำ" ก่อนจะเข้าสู่การหารือร่วมกับภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในสหราชอาณาจักร ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ Soft Power ของไทยปัจจุบัน

ปัจจุบัน มีร้านอาหารไทยในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 18,852 ร้าน โดยตั้งแต่ปี 2531 มี 1,779 ร้าน ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และในสหราชอาณาจักร มีร้านอาหารที่ได้รับการรับรอง Thai SELECT จากกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งสิ้น 115 ร้าน ครอบคลุมหลายเมืองใหญ่ อาทิ ลอนดอน แมนเชสเตอร์ กลาสโกว์ และเอดินบะระ เพื่อใช้พลังแห่งวัฒนธรรม นำร่องด้วย "อาหารไทย" เป็นเครื่องมือในการขยายบทบาทประเทศไทยบนเวทีโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งผ่าน Soft Power ของไทย



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ