ไทยใช้สิทธิ FTA ไตรมาส 1/68 มูลค่า 2.2 หมื่นล้านดอลล์ โต 19% เกินคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 12, 2025 10:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไทยใช้สิทธิ FTA ไตรมาส 1/68 มูลค่า 2.2 หมื่นล้านดอลล์ โต 19% เกินคาด

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ข้อมูลการใช้สิทธิ FTA ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.68) มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ภายใต้ความตกลง FTA รวม 22,001.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 79.75% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.04%

โดยเป็นการส่งออกไปยังอาเซียน ภายใต้ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 มูลค่า 7,895.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 67.07% อันดับ 2 เป็นการใช้สิทธิฯ ภายใต้ความตกลงอาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่า 4,926.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 90.92% อันดับ 3 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 3,908.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 87.11% อันดับ 4 ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 1,572.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 74.89% อันดับ 5 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 1,346.20ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิฯ 56.85%

ภาพรวมสินค้า 5 อันดับแรกที่มีการใช้สิทธิ FTA ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ (1) แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผง มูลค่า 1,655.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2) ยานยนต์สำหรับขนส่งของอื่น ๆ (ที่มีเครื่องดีเซล หรือกึ่งดีเซล) น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน มูลค่า 1,588.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3) ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มูลค่า 857.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4) แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผงอื่น ๆ มูลค่า 760.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ (5) น้ำตาลที่ได้จากอ้อยอื่น ๆ มูลค่า 473.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


นางอารดา กล่าวว่า จาก FTA ทั้งหมด 12 ฉบับ ที่กรมการค้าต่างประเทศ ติดตามการใช้สิทธิฯ ในปัจจุบัน มี FTA ที่มีอัตราการใช้สิทธิฯ เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 รวม 6 ฉบับ ได้แก่

1. ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (ส่งออกไปอินเดีย) เพิ่มขึ้น 201.64%

2. ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เพิ่มขึ้น 21.27%

3. ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ส่งออกไปจีน) เพิ่มขึ้น 17.64%

4. ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน เพิ่มขึ้น 7.69%

5. ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี (ส่งออกไปเกาหลี) เพิ่มขึ้น 4.31%

6. ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-เปรู เพิ่มขึ้น 0.33%

"การใช้สิทธิ FTA ที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด เป็นผลมาจากภาพรวมการส่งออกของไทย เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2567 จาก 70,753.67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 81,532.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568" นางอารดา กล่าว

โดยสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ FTA สูง 5 อันดับแรก ได้แก่ น้ำตาลที่ได้จากอ้อย เนื้อของสัตว์ปีกเลี้ยงแช่เย็นจนแข็ง ไก่ที่ปรุงแต่ง ผลไม้สด (เงาะ, ลำไย, ทับทิมสด และทุเรียนสด) มูลค่ารวม 4,775.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 21.71% ของมูลค่าการใช้สิทธิฯ ทั้งหมด

ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม 5 อันดับแรก ได้แก่ แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผง ยานยนต์สำหรับขนส่งของ ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ แพลทินัมยังไม่ได้ขึ้นรูป (อันรอต) กึ่งสำเร็จรูปหรือเป็นผงอื่น ๆ และเครื่องปรับอากาศชนิดติดผนังหรือติดเพดาน มูลค่ารวม 17,225.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 78.29% ของมูลค่าการใช้สิทธิฯ ทั้งหมด

"ขอเน้นย้ำว่า การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะสร้างแต้มต่อในการส่งออก ช่วยลดภาษีนำเข้า ลดต้นทุนทางการค้า ทำให้สินค้าส่งออกจากไทยน่าดึงดูด เมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศอื่นที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จาก FTA และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐได้เจรจาจัดทำ FTA ฉบับใหม่กับประเทศคู่ค้าใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นไทย-ศรีลังกา, ไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (เอฟต้า), ไทย-ภูฏาน โดยการใช้สิทธิฯ ผ่าน FTA ทั้งหมดนี้ จะช่วยขยายตลาดการส่งออกใหม่ และลดการพึ่งพาตลาดเดียวในการส่งออก" นางอารดา ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ