
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน คาดว่า ภายในปี 2568 ธนาคารออมสิน จะสามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือบุคคลในกลุ่ม Unserved - Underserved ที่ยังมีการพึ่งพาแหล่งเงินนอกระบบ และการให้สินเชื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่กลุ่มเปราะบาง ได้กว่า 1 ล้านรายตามเป้าหมาย รวมถึงความสำเร็จด้านการแก้หนี้ ที่คาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่ธนาคารริเริ่มดำเนินการ และที่เป็นมาตรการตามนโยบายรัฐบาล รวมแล้วเป็นจำนวนกว่า 920,000 บัญชีลูกหนี้
สำหรับนวัตกรรมการเงินเพื่อสังคมของธนาคาร ที่ช่วยสร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบสถาบันการเงิน ประกอบด้วย
1) สินเชื่อสร้างเครดิตสร้างโอกาส สำหรับผู้ไม่มีประวัติเครดิตการเงิน อนุมัติแล้ว 150,000 ราย
2) สินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ อนุมัติแล้ว 240,000 ราย
3) สินเชื่อต้อนรับเปิดเทอม อนุมัติแล้ว 110,000 ราย
รวมถึงการให้สินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อย/ฐานราก ได้แก่ สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ อนุมัติแล้ว 120,000 ราย รวมจำนวนผู้ได้รับสินเชื่อแล้วทั้งสิ้น 620,000 ราย (ข้อมูล ณ เดือนพ.ค.68)
"ธนาคาร คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางได้ตามเป้าหมาย 1 ล้านราย ภายในปี 2568 นี้" นายวิทัย ระบุ
สำหรับภารกิจการแก้หนี้ ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ "โครงการคุณสู้ เราช่วย" ซึ่งธนาคารเป็นผู้มีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนตามนโยบายกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ตั้งเป้าช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย/SMEs ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางของสถาบันการเงินของรัฐ และลูกหนี้กลุ่ม Non-Bank โดยสามารถช่วยเหลือลูกหนี้แล้วกว่า 190,000 ราย จำนวน 300,000 บัญชีลูกหนี้ คิดเป็น 33% ของผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันทั้งระบบ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย.68)
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ธนาคารดำเนินการต่อเนื่อง อาทิ การลดเงินงวด-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระของลูกหนี้สถานะปกติ, การลดเงินงวด-ลดดอกเบี้ย-ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ของลูกหนี้สถานะ NPLs, การบรรเทาภาระหนี้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหว รวมช่วยเหลือบรรเทาภาระลูกหนี้แล้ว จำนวนกว่า 119,000 บัญชี
นายวิทัย กล่าวว่า ธนาคารออมสิน อยู่ระหว่างเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยทำโครงการแก้หนี้ NPLs วงเงินต่ำกว่า 1 แสนบาท ประกอบด้วย การยกหนี้ให้ลูกหนี้สินเชื่อสู้ภัยโควิด และการปิดบัญชีตัดหนี้สูญ (Write Off) รวมจำนวนกว่า 500,000 บัญชี ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหา และลดภาระหนี้แก่ลูกหนี้รวมทุกมาตรการได้กว่า 920,000 บัญชี
"ธนาคารออมสิน พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างผลลัพธ์ขยายผลการสร้าง Social Impact ในวงกว้าง และหลากหลายมิติทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคม" นายวิทัย ระบุ