"อนุสรณ์"ชี้ทางรัฐเตรียมรับมือช่วยคนฐากราก-SME เผชิญศก.ผันผวนพร้อมสร้างหลักประกันแรงงานทุกกลุ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday June 15, 2025 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทและงบประมาณปี 2569 ต้องมุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจฐานราก กิจการขนาดย่อมและเล็กมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความผันผวนทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายในและภายนอกมากที่สุดโดยเฉพาะสงครามจากตะวันออกกลางล่าสุด

นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้ในระดับสูงและใช้เงินทุนสะสมและเงินออมไปจนหมด ผลกระทบจากสงครามอิสราเอลอิหร่านสร้างแรงกดดันให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังการโจมตีของอิสราเอล

สงครามอิสราเอลอิหร่านอาจดันราคาทองคำในตลาดโลกทะลุ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งหนึ่ง สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านจะเป็นปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและราคาพลังงานโลกในระดับไม่ต่างจากสงครามยูเครนรัสเซีย

เศรษฐกิจและผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมรับมือความผันผวนนี้ด้วยความระมัดระวัง

อัตราเงินเฟ้อจากปัจจัยทางด้านอุปทานและการชะลอตัวลงอีกของเศรษฐกิจไทยจะสร้างความยากลำบากทางเศรษฐกิจต่อกลุ่มประชาชนฐานรากมากที่สุด การเร่งสร้างโครงข่ายความปลอดภัยของสังคม (Social Safety Net) ให้ครอบคลุม รักษาระดับการจ้างงาน มีความจำเป็นท่ามกลางเศรษฐกิจยุคสงคราม

การสร้างกระแสความเกลียดชังทางด้านเชื้อชาติอาจทำให้ความขัดแย้งกรณีพิพาทดินแดนไทยกับกัมพูชาลุกลามไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ เพราะต่างพึ่งพาอาศัยกัน การค้าตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาและการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนักหากมีการปิดด่านถาวร

มูลค่าการส่งออกชายแดนไทยกัมพูชาช่วง 4 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 50,225 ล้านบาท ปีที่แล้วทั้งปีอยู่ที่ 141,846 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการค้ารวม (ส่งออกและนำเข้า) อยู่ที่ 174,530 ล้านบาท หากความขัดแย้งยืดเยื้อเกิน 1 ปี อาจเริ่มมีการโยกย้ายโรงงานและสถานประกอบการออกจากพื้นที่ชายแดนมีผลกระทบต่อการจ้างงานประชาชนในพื้นที่

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่าในภาวะที่เศรษฐกิจมีความผันผวนสูงเช่นนี้ ประชาชนมีความเสี่ยงในเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เราจำเป็นต้องเดินหน้าปฏิรูประบบประกันสังคมให้สามารถครอบคลุมดูแล "แรงงาน" เพิ่มมากขึ้น การเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันว่างงานที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่เหมาะสม การเร่งสร้างโครงข่ายความปลอดภัยของสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ การขยายฐานสมาชิกผู้ประกันตนยังช่วยให้กองทุนประกันสังคมเข้มแข็งขึ้นอีกด้วย คณะกรรมการประกันสังคมได้เห็นชอบในหลักการในการขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างของกิจการเพาะปลูก ประมง ป่าไม้ เลี้ยงสัตว์ ซึ่งมิได้ใช้ลูกจ้างตลอดปี ขยายความคุ้มครองไปยังลูกจ้างภาคเกษตร ขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกจ้างของนายจ้างซึ่งประกอบการค้าแผงลอย ขยายความลูกจ้างของนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งงานที่ลูกจ้างทำนั้นมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย ขยายความคุ้มครองลูกจ้างที่ทำงานบ้านในครัวเรือน

ทางสำนักงานประกันสังคมได้จัดรับฟังความเห็นไปแล้ว ผลออกมาว่ามากกว่า 85%เห็นด้วยกับการขยายความคุ้มครองลูกจ้างที่ไม่ได้อยู่ในบังคับของกฎหมายประกันสังคม ตอนนี้รอขั้นตอนดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกา คาดว่าไตรมาสสี่ปีนี้ แรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ แรงงานเกษตร แรงงานทำงานตามบ้าน ต่อไปก็จะได้รับความคุ้มครองและมีสิทธิประโยชน์สวัสดิการพื้นฐาน

ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้ยินดีและจะทำให้ประชาชนเหล่านี้สามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณทางด้านสาธารณสุขให้เพียงพอ โดยเฉพาะควรจัดสรรงบประมาณให้โรงพยาบาลของรัฐจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาการขาดทุนอยู่ในขณะนี้ การผลักดันให้เกิดระบบบำนาญถ้วนหน้าสำหรับผู้สูงวัยและระบบสวัสดิการถ้วนหน้าสำหรับเด็กเล็กเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้พร้อมกับการปฏิรูประบบรายได้ภาครัฐเพื่อให้สามารถมีแหล่งงบประมาณสนับสนุน

การจัดการกองทุนหมุนเวียนนอกงบประมาณต่างๆให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้รัฐบาล มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้นในการดูแลสวัสดิการพื้นฐานให้ประชาชนในยุคเศรษฐกิจโตต่ำ หากเราวางเป้าหมายต้องการให้ประเทศไทยมีระบบสวัสดิการที่ดีขึ้นย่อมทำได้แต่ต้องมีการปฏิรูประบบการคลังใหม่และต้องปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัยเป็นรัฐบาลดิจิทัล

ประเทศรัฐสวัสดิการส่วนใหญ่ในยุโรปมักเป็นประเทศที่มีระบบราชการหรือระบบรัฐการที่ใหญ่ต้องมีระบบราชการและระบบการเมืองที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ไม่เช่นนั้นแล้วจะกลายเป็นรัฐสวัสดิการที่ล้มเหลวหรือประสบปัญหาความยั่งยืนทางการเงินการคลังเกิดวิกฤติทางการคลัง นำไปสู่การลดขนาดของระบบราชการและลดสวัสดิการของประชาชนในที่สุด ปรากฎการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในบางประเทศในยุโรปใต้และฝรั่งเศสและเมื่อมีการลดสวัสดิการก็จะเกิดการชุมนุมต่อต้านเกิดความไม่สงบขึ้นมาในสังคม

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า งานวิจัยธนาคารโลกชี้ ระบบโครงข่ายความปลอดภัยของสังคมช่วยทำให้ครอบครัวรับมือภาวะวิกฤติจากปัจจัยต่างๆได้ดีขึ้น ลดความขัดแย้งทางสังคม ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ธนาคารโลกพบว่าการโอนเงินสวัสดิการสังคมให้กลุ่มคนจนที่สุดทั่วโลกสามารถทำให้คนกลุ่มนี้หลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรงได้ประมาณ 36% โครงการสวัสดิการสังคม Social Safety Net นี้ทำให้ลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างความยากจนได้ประมาณ 45% ทั่วโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ