ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.45 แข็งค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาผลประชุม FED-BOJ-BoE สัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 17, 2025 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.45 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.49 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยเงินบาทมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการอ่อนค่าลงของ เงินดอลลาร์ หลังดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. แย่กว่าที่ตลาดคาดไว้มาก

แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา อาจชะลอลงบ้าง หลังสถานการณ์ความขัดแย้งใน ตะวันออกกลางเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายลงได้ ซึ่งอาจกดดันให้บรรดาสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า ทั้ง ทองคำ และเงินเยนญี่ปุ่นอาจอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก

แม้เงินบาทอาจชะลอการแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่การเคลื่อนไหวระหว่างวัน อาจยังไร้ทิศทางที่ชัดเจน เนื่องจากตลาดรอลุ้นผลการ ประชุมบรรดาธนาคารกลางหลักในสัปดาห์นี้ (BOJ, FED และ BoE) รวมถึงรอติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออก กลาง

คืนนี้ตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เช่น ยอดค้าปลีก และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม เดือนพ.ค. รวม ถึงข้อมูลตลาดบ้าน

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.60 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 32.5350 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.98 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 144.16 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1550 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1580 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 32.471 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทยและสหรัฐว่า ในสัปดาห์นี้จะเริ่มเปิดการ
เจรจาทางเทคนิคระหว่างไทยกับสหรัฐได้ โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์นำทีมเจรจาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งยืนยันว่า กระทรวง
พาณิชย์มีความพร้อมเต็มที่ และมั่นใจว่าการเจรจาจะประสบความสำเร็จได้ หากการเจรจาจบไม่ทันวันที่ 9 ก.ค. 68 ที่ครบกำหนด 90
วัน ในการชะลอการขึ้นภาษีตอบโต้นั้น ทางสหรัฐ เคยเปรยว่า หากประเทศใดมีความตั้งใจในการเจรจาก็อาจขยายเวลาออกไปได้
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนไทยไตรมาส 2/2568 ว่า
สถานการณ์การลงทุนในไตรมาส 2 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 และไตรมาส 1 ปี 2568 โดย FDI จากผู้ลงทุนหลักยังเข้า
มาตั้งฐานในไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป โดยเฉพาะในกิจการ Data Center, Cloud
Service, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ, ซัพพลายเชนของกลุ่ม PCB, อุปกรณ์
โทรคมนาคมและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของยานยนต์ รวมทั้งการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเติบโต
ตามแนวโน้มความต้องการที่สูงขึ้น
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์
(16 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (16 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้น
แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุม
นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะคง
อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณ
บ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัว
เลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะคงอัตรา
ดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.5% ท่ามกลางสถานการณ์การค้าที่ไม่แน่นอน
  • นักลงทุนจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ท่ามกลางความหวังที่ว่าความขัดแย้งดังกล่าวจะไม่ลุกลาม
หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านส่งสัญญาณพร้อมที่จะเจรจาเพื่อยุติการสู้รบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ