
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า เตรียมพิจารณาปรับเงื่อนไขการเพิ่มอำนาจให้กรมสรรพสามิต สามารถระงับการจ่ายเงินสมทบให้กับค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรก (EV3.0) และ EV3.5 ได้ทันที โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ประกอบการ หรือบริษัททำผิดเงื่อนไข หรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามเงื่อนไขของมาตรการ เช่น การผลิตรถ EV ชดเชยไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
รมช.คลัง กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะพิจารณาเพิ่มเงื่อนไขให้ค่ายรถ EV ต้องทำแผนการผลิตรถชดเชยตามเงื่อนไขของมาตรการทุก ๆ 2 เดือน มาให้กรมสรรพสามิตพิจารณา ซึ่งจะใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยให้ค่ายรถ โดยหากเห็นสัญญาณว่าค่ายรถ EV เริ่มมีปัญหา เช่น ไม่สามารถผลิตรถชดเชยได้ตามสัญญา กรมสรรพสามิตจะมีอำนาจระงับจ่ายเงินชดเชยได้ทันที
"ยังเป็นรายละเอียดที่กรมสรรพสามิต จะต้องเร่งพิจารณา ว่าจะต้องให้ buffer กับค่ายรถในการผลิตชดเชยคืน 10% ของแผนหรือไม่ เช่น หากค่ายรถบอกว่าจะผลิตคืน 300 คัน/เดือน แต่ผลิตได้จริงแค่ 280 คัน/เดือน ตรงนี้จะพิจารณาอย่างไร จะต้องมี buffer 10% ให้ค่ายรถหรือไม่ เผื่อกรณีเดือนไหนเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบกับกระบวนการผลิต ตรงนี้เป็นรายละเอียดที่จะต้องมาพิจารณา จากปัจจุบัน กรมสรรพสามิตยังไม่สามารถทำอะไรในส่วนนี้ได้ จนกว่าจะถึงระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการ คือวันที่ 31 ธ.ค.68 ซึ่งเรามองว่าช้าเกินไป" นายเผ่าภูมิ ระบุ
อย่างไรก็ดี เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะต้องเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
รมช.คลัง เห็นว่า การเพิ่มอำนาจให้กรมสรรพสามิตพิจารณาชะลอการจ่ายเงินชดเชยให้ค่ายรถยนต์ได้นั้น ถือเป็นการสร้างกลไกในการตัดวงจรที่จะเกิดกรณีค่ายรถมีปัญหาไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการได้
ส่วนประเด็นเรื่องการยืดระยะเวลาการผลิตรถยนต์ EV ชดเชยนั้น เป็นการช่วยเหลือค่ายรถในอีกมิติ ไม่ใช่การช่วยค่ายรถที่มีปัญหา แต่เป็นการช่วยอุตสาหกรรมในภาพรวม ซึ่งเป็นคนละส่วนกับเงื่อนไขที่กำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ โดยในภาพรวมของมาตรการขณะนี้ ยังไม่พบว่ามีค่ายรถยนต์ EV อื่น ๆ ที่มีปัญหาเชิงประจักษ์
- ลั่น! ไม่มีลดหย่อนให้ NETA พร้อมเรียกคืนเงินอุดหนุน หากผลิตรถไม่ครบเกณฑ์
สำหรับกรณีบริษัทเนต้า ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า NETA ที่กำลังเป็นประเด็นในขณะนี้นั้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต คือ เรื่องเงินชดเชย 1.5 แสนบาท/คันที่ค่ายรถได้รับไป โดยก่อนหน้านี้ กรมสรรพสามิตได้จ่ายเงินชดเชยดังกล่าวให้กับ NETA ไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท และขณะนี้ได้ชะลอการจ่ายเงินชดเชยอีกกว่า 400 ล้านบาท เนื่องจาก NETA ยังค้างการผลิตรถ EV ชดเชยตามมาตรการอีกราว 1.9 หมื่นคัน จากก่อนหน้านี้ได้ผลิตชดเชยไปแล้ว 4 พันคัน
ทั้งนี้ ตามหลักการแล้ว กรณีที่ค่ายรถทำผิดเงื่อนไขของมาตรการรัฐ ค่ายรถจะต้องจ่ายคืนในสิ่งที่รัฐได้ให้ไปแล้วทั้งหมด นั่นหมายถึง รัฐจ่ายไปเท่าไร ค่ายรถต้องคืนมาเท่านั้น สำหรับกรณีของ NETA รัฐได้มีการจ่ายให้แล้ว ประกอบด้วย เงินชดเชย 1.5 แสนบาทต่อคัน และการลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2%
"ตรงนี้ได้ลงถือมือผู้บริโภคไปเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ สิ่งที่รัฐยังขาดอยู่ คือ การผลิตชดเชย ดังนั้น ก็ต้องไปพิจารณาตามเงื่อนไข ไม่มีหย่อน หากค่ายรถปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการไม่ได้" นายเผ่าภูมิ ระบุ