คณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) มีมติ 2 ใน 3 จากทั้งส่วนของนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ให้ปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาทในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับขึ้นค่าแรง 400 บาทในบางกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ คือ กิจการโรงแรมทั่วประเทศ ตั้งแต่ระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรม 50 ห้องขึ้นไป หรือมีห้องอาหาร และกิจการสถานบริการทั่วประเทศ อาทิ คาราโอเกะ คอกเทลเล้าจ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีแรงงานที่จะได้รับประโยชน์จากการขึ้นค่าแรงในครั้งนี้ประมาณ 7 แสนคน โดยจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การขึ้นค่าแรง 400 บาทในครั้งนี้ให้กับภาคท่องเที่ยวและบริการก่อน เพราะนายจ้างได้รับผลกระทบน้อยสุด และปรับให้สอดคล้องกับค่าครองชีพของแรงงาน อย่างไรก็ตาม ได้รับคำแนะนำจากหลายๆ ฝ่ายเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ
สำหรับมาตรการลดผลกระทบจากนายจ้างนั้น กระทรวงแรงงานได้ร่วมกับอีก 6 ธนาคารเปิดสินเชื่อ 30,000 ล้านบาท สำหรับให้สถานประกอบการกู้ยืมเพื่อจะช่วยเยียวยาและเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในระดับหนึ่ง และกระทรวงแรงงานจะเสนอผลสรุปรายงานต่อกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา แก้ปัญหาผลกระทบที่อาจจะเกิดกับนายจ้างในการขึ้นค่าแรงรอบนี้
นอกจากนี้ ในการประชุมยังมีการรายงานถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิหร่าน-อิสราเอล ซึ่งตอนนี้มีแรงงานไทยกว่า 40,000 คน และแรงงานทุกคนปลอดภัยดี ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และภาคก่อสร้าง และกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพไทยได้ประสานงานเรื่องนี้กันตลอดเวลา รวมทั้งกระทรวงแรงงานได้มีศูนย์ช่วยเหลือประสานงานติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล และประสานกับทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงานทุก 2 ชั่วโมง ในส่วนของการทำงานของแรงงานกัมพูชาที่มาทำงานในประเทศไทย นั้น กระทรวงแรงงานไม่มีนโยบายส่งแรงงานกลับในขณะนี้ และได้รับแจ้งจากฝ่ายนายจ้างว่าแรงงานกัมพูชายังคงต้องการทำงานในประเทศไทยต่อไป