ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.60 เกาะติดสถานการณ์ตอ.กลาง-ประชุมเฟด-เสถียรภาพการเมืองในประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 18, 2025 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.60 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวอยู่ในระดับ เดียวกับเปิดตลาดเมื่อเช้า ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.54 - 32.63 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งมีปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดเป็นเรื่องสถานการณ์สู้รบระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล และการประชุมของธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด)

ขณะที่มีปัจจัยเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทั้งกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่พรรคภูมิใจไทยอาจตัดสินใจ ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และกรณีคลิปหลุดที่เป็นการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซนซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ รัฐบาลในอนาคต

"บาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค นอกจากปัจจัยเรื่องตะวันออกกลางและเฟดแล้ว ยังมีเรื่องการเมืองภายใน ประเทศด้วย แต่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากกว่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.50 - 32.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.92 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 145.31 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.15.6 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1490 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,094.58 จุด ลดลง 19.00 จุด (-1.71%) มูลค่าซื้อขาย 36,048.37 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,142.86 ล้านบาท
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก
รัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตแรก รวมวงเงินประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ที่จะใช้จากงบกลาง
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท และจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าพิจารณาอนุมัติต่อไป
  • รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนพ.ค.68 มีมูลค่า 31,044 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวได้ 18.4% การ
ส่งออกของไทยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 โดยอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 38 เดือน นับตั้งแต่มีนาคม 2565 และมูลค่าการส่ง
ออกรายเดือนที่ระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ ทำให้มั่นใจว่าการส่งออกปีนี้จะไม่ติดลบอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์
ไว้ โดยมองว่ายังมีโอกาสจะเติบโตได้ในระดับ 2 หลัก
  • ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะทีมเจรจาฝ่ายไทย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทีมประเทศไทย ได้เจรจาผ่านระบบวีดี
โอคอนเฟอร์เรนซ์ กับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ต่อกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้
(Reciprocal Tariffs) กับประเทศคู่ค้า ซึ่งเป็นการหารือครั้งแรกอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่สหรัฐฯ ตอบรับที่จะเจรจากับไทย ส่วน
ข้อเสนอของฝ่ายไทยจะยื่นให้สหรัฐฯ วันที่ 20 มิ.ย.นี้
  • นักวิเคราะห์บริษัท จีแคป จำกัด (GCAP GOLD) เผยทิศทางราคาทองคำระยะสั้นอยู่ในทิศทางขาขึ้นจากแรงซื้อเชิงกลยุทธ์
ที่ได้รับปัจจัยความตึงเครียดระลอกใหม่ในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีสถานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และสังหาร
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติ ขณะที่อิหร่านตอบโต้ด้วยการยิงโดรนโจมตี และประกาศถอนตัวจากการเจรจานิวเคลียร์กับ
สหรัฐฯ ปฏิกิริยาโต้กลับดังกล่าวจุดชนวนความกังวลว่าอาจเกิดสงครามในวงกว้างและยังไม่มีสัญญาณว่าความรุนแรงจะบรรเทาลง ซึ่งเป็น
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้มีการซื้อเก็งกำไรทองคำต่อเนื่อง
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 68 ว่าจะ
เติบโตได้ 1.5% และยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องในปี 69 ที่คาดว่า GDP ไทยจะเติบโตได้ 1.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าที่ SCB EIC ได้เคย
ประเมินไว้ในช่วงต้นปี 68 ว่าจะสูงกว่า 2% เนื่องจากแรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจไทยจะแผ่วลงเกือบทุกมิติ โดยเฉพาะการบริโภคภาค
เอกชน ที่จะชะลอลงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาคครัวเรือนเร่งปรับลดภาระหนี้ที่สูงขึ้นมากในช่วงก่อนหน้า (Deleveraging) ซึ่งทำให้
เกิดการระมัดระวังในการใช้จ่าย นอกจากนั้น การบริโภคยังจะได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม จากความเปราะบางด้านการจ้างงาน และราย
ได้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงมาก และภาวะการเงินที่ยังตึงตัว
  • นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งแล้ว รวมถึงผู้ผลิตรถ
ยนต์ แต่เขายังคงยืนยันว่าจะไม่รีบเร่งบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ที่แลกมาด้วยการทำลายผลประโยชน์ของชาติ
  • สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (17 มิ.ย.) ว่า ร่างกฎหมายภาษีและงบ
ประมาณของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลเพิ่มขึ้นถึง 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในช่วง 10 ปีข้างหน้า
  • สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อเครื่องบินรบอิสราเอลระดมโจมตีกรุง

เตหะรานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อิหร่านยิงขีปนาวุธตอบโต้ไปเป็นระลอกเล็ก ๆ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บล้มตาย ขณะที่

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านออกมาเตือนว่าการแทรกแซงใด ๆ จากสหรัฐฯ จะนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ