Virtual Bank นวัตกรรมใหม่ระบบธนาคารไทย จุดเปลี่ยนสนามแข่งการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 20, 2025 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

Virtual Bank นวัตกรรมใหม่ระบบธนาคารไทย จุดเปลี่ยนสนามแข่งการเงิน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศรายชื่อผู้ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) จำนวน 3 ราย ซึ่งประกอบด้วย

1.บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด และกลุ่มผู้ร่วมขออนุญาต

2.ธนาคารกรุงไทย, บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC), บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และกลุ่มผู้ร่วมขออนุญาต

3.บมจ. เอสซีบี เอกซ์ (SCB) WeTechnology Limited, KakaoBank Corp. และกลุ่มผู้ร่วมขออนุญาต

โดยหลังจากนี้ ผู้ได้รับความเห็นชอบจะต้องจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด รวมถึงผ่านการประเมินความพร้อมของ ธปท. ก่อนยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และจะต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปีนับจากวันที่ได้รับความเห็นชอบจาก รมว. คลัง (1 ปีนับจากวันที่ 19 มิ.ย.68) อย่างไรก็ดี ธปท. อาจพิจารณาผ่อนผันได้อีกไม่เกิน 1 ปี


  • ความโดดเด่นที่แตกต่างของผู้ได้ใบอนุญาต 3 ราย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า รายชื่อที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank นี้ มีจุดแข็งที่สามารถให้บริการทางการเงินตามที่ ธปท. อยากเห็น (Green Line) ที่แตกต่างกัน สามารถตอบโจทย์ และเติมเต็มบริการทางการเงินให้กับ Ecosystem ของภาคการเงิน รวมทั้งสามารถช่วยส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ในระบบการเงินไทยได้ เนื่องจาก

- มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการทางการเงิน สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และรายย่อย และมีศักยภาพในการพัฒนาโมเดลการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าของพันธมิตรในเครือ และลูกค้าทั่วไป โดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อบุคคล ซึ่งครอบคลุมไปถึงสินเชื่อแบบที่มี และไม่มีหลักประกัน และ Digital Lending

- พันธมิตรกับผู้นำด้านเทคโนโลยี และผู้เล่นจากต่างประเทศ เป็นการจับมือกับผู้เล่นในภาคธุรกิจในประเทศ ที่มีฐานข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก ทำให้มีแต้มต่อในเรื่องฐานข้อมูลลูกค้า โดยเฉพาะหากสามารถเชื่อมโยง Alternative data และข้อมูลธุรกรรมผ่าน Platform ต่าง ๆ เข้ามาอยู่ใน Ecosystem เดียวกัน เพื่อพัฒนาโมเดลและบริการทางการเงินที่ตรงโจทย์ รวมถึงการจับมือกับผู้เล่น Virtual Bank ในต่างประเทศที่เป็นผู้นำและมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมาแล้ว

- ทั้ง 3 กลุ่ม น่าจะสามารถตอบโจทย์เรื่องผลิตภัณฑ์การออม-การลงทุนที่หลากหลาย และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามพฤติกรรม/ความต้องการ/และรายได้ของผู้ออมได้ทุกกลุ่ม


  • Green line business ในต่างประเทศ และแนวทางที่อาจเห็นจาก Virtual Bank ของไทย

หากเปรียบเทียบแนวทางการดำเนินธุรกิจ และการให้บริการทางการเงินที่ทางการ และผู้กำกับดูแลต้องการเห็น (Green line business) ของไทยกับต่างประเทศ จะพบว่า มีความคล้ายในเรื่องของการส่งเสริมเข้าถึงบริการทางการเงิน ของกลุ่มที่ยังไม่ได้รับบริการทางการเงินที่เพียงพอและเหมาะสม (Underserved) หรือกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Unserved) โดยเฉพาะใน Segment ลูกค้ารายย่อย/ประชาชนทั่วไป และลูกค้าธุรกิจ SMEs รวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ จากกรณีศึกษาในต่างประเทศ ยังพบข้อสังเกตว่า ในช่วงที่ Virtual Bank เริ่มประกอบธุรกิจ และยังต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของธนาคารกลาง การแข่งขันการให้บริการทางการเงิน จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างนวัตกรรม และความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งได้แก่

1. การผสานเทคโนโลยีเข้ากับความเชี่ยวชาญเฉพาะทางการเงิน และการวิเคราะห์ข้อมูล

หลังได้รับใบอนุญาตจากทางการเกาหลีใต้ในปี 2560 Virtual Bank ใหม่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมการให้บริการทางการเงินที่สร้างความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ เช่น การให้บริการครบวงจรผ่าน Mobile application การเปิดบัญชีเงินฝาก หรือขอสินเชื่อโดยไม่ต้องใช้เอกสาร การยืนยันตัวตนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) เป็นต้น

นอกจากนี้ ในกรณีของสิงคโปร์ มีการนำข้อมูลทางเลือก (Alternative data) ผนวกเข้ากับข้อมูลด้านรายได้ และการชำระเงินผ่าน Application ของ Grab และ Singtel มาวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านเครดิต ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อไม่มีหลักประกัน (Unsecured loan) ให้กับกลุ่มลูกค้า Underserved ที่เคยได้รับวงเงินสินเชื่อไม่เพียงพอต่อความต้องการ

2. ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน กรณีเกาหลีใต้ Kakao Bank เชื่อมโยงบริการทางการเงินกับ Application Kakao Talks ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการการเงินส่วนบุคคล เช่น บริการการโอน-จ่าย และเรียกเก็บเงิน นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากที่หลากหลาย (เช่น บัญชีออมเงินที่ให้ดอกเบี้ยรายวัน เงินฝากแบบกลุ่ม ที่ตอบโจทย์การรวมกลุ่มเพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ เชื่อมโยงดอกเบี้ยเงินฝากกับการใช้จ่ายบัตรเครดิต โดยหากมีการใช้จ่ายตามที่กำหนด จะได้รับดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มมากขึ้น)

และผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบโจทย์เฉพาะสำหรับลูกค้ารายบุคคล ทั้งในด้านวงเงินสินเชื่อขั้นต่ำ ความยืดหยุ่นของการกำหนดวันชำระคืนและคำนวณดอกเบี้ยตามจำนวนวันที่มีการเบิกใช้สินเชื่อ การอนุมัติสินเชื่อโดยไม่ใช้เอกสาร รูปแบบการชำระคืนสินเชื่อที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้ขอสินเชื่อ เป็นต้น


  • Virtual bank ระยะแรกในไทย เร่งแข่งสร้างฐานลูกค้า-เสนอผลิตภัณฑ์เงินฝาก

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วง 3 ปีแรก จะเห็นภาพการเร่งสร้างฐานลูกค้าด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากเป็นหลัก โดยเฉพาะนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตอบโจทย์เฉพาะรายบุคคล และอาจให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไปเล็กน้อย และตามมาด้วยการให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อ และผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่เสริมสร้างความสามารถในการหารายได้ให้แก่ธนาคาร

อย่างไรก็ดี หลังจากที่ Virtual Bank ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ อาจมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น

โดยจากกรณีของเกาหลีใต้ ที่มีการให้ใบอนุญาตจำนวน 2 รายในปี 2560 พบว่า ยอดคงค้างเงินฝากของ Virtual Bank ทยอยเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 27 ล้านล้านวอน ณ สิ้นปี 2563 หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.1% ของยอดคงค้างเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ของเกาหลีใต้ ขณะที่ ในปี 2564 ทางการได้เพิ่มจำนวนใบอนุญาต Virtual Bank อีก 1 ราย ส่งผลให้ภาพการแข่งขันระดมเงินฝากมีความเข้มมากขึ้น สะท้อนจากสัดส่วนเงินฝากของ Virtual Bank ทั้ง 3 แห่ง เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่ามาที่ 110 ล้านล้านวอน คิดเป็น 6.6% ของยอดคงค้างเงินฝากโดยรวม

ขณะที่ในด้านสินเชื่อ ก็สะท้อนภาพที่คล้ายกัน แต่อาจจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า เพราะในช่วงแรกของการให้บริการ Virtual Bank ยังมีความระมัดระวังในการประเมินความเสี่ยงของผู้กู้ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการเป็นลูกค้ารายย่อยและ SMEs

นอกจากนี้ ในด้านดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม ในช่วงแรกของ Virtual Bank ในเกาหลีใต้ พบว่า ผลิตภัณฑ์เงินฝากของ Virtual Bank โดยมากจะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าผลิตภัณฑ์เงินฝากของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ประมาณ 0.3% เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้า (ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใกล้เคียงกับตลาด) อย่างไรก็ดี Virtual Bank ทั้งในเกาหลีใต้ และสิงคโปร์ มีการลดค่าธรรมเนียมบริการทางการเงินบางส่วน เช่น ไม่มีค่าธรรมเนียมการชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด ค่าธรรมเนียมเงินฝากต่ำกว่าจำนวนขั้นต่ำ ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีเงินฝาก เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันในการลดธรรมเนียมส่วนนี้ขึ้นในภาคการเงินในเวลาต่อมา

บทเรียนของ Virtual Bank ในต่างประเทศ ซึ่งเกิดผลดีต่อผู้ใช้บริการที่มีตัวเลือกหลากหลาย มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่ตรงตามความต้องการ มีค่าธรรมเนียมที่ลดลงหรือดอกเบี้ยที่ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่การเข้าถึงสินเชื่อและบริการทางการเงินอื่น ๆ ทำได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ Virtual Bank ในต่างประเทศสามารถเติบโต และส่งเสริมแข่งขันภายในภาคการเงินในเชิงบวก


สำหรับไทย ในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ ในไทยได้มีการนำเทคโนโลยี และการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้พัฒนาการให้บริการทางการเงิน (การยืนยันตัวตน การให้บริการสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึงการผนวกข้อมูลทางเลือกมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อ) และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ แล้วบางส่วน ทำให้ในระยะหลัง ๆ มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ที่ใกล้เคียงกับ Virtual Bank ในต่างประเทศ

ซึ่งในระยะถัดไป การมาของ Virtual Bank ซึ่งเป็นการร่วมมือของผู้เล่นในภาคการเงินในประเทศ กับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในหลายอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จะช่วยกระตุ้นให้ภาคการเงินมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ให้ก้าวไปอีกขั้น ซึ่งจะเป็นประโยชย์ต่อทั้งระบบการเงินในประเทศ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับผู้เล่นในภาคการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน รวมถึง Virtual Bank ที่กำลังเตรียมจะเริ่มดำเนินการ ก็คือ Open Data ที่เป็นกลไกที่จะเอื้อให้ประชาชนสามารถรับส่งข้อมูลของตนไปยังผู้ให้บริการหรือหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่ง ธปท. และหน่วยงานทางการอยู่ระหว่างผลักดันให้เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ประเด็นสำคัญจะเปลี่ยนกลับไปอยู่ที่ 2 เรื่อง คือ

1. ความสามารถและศักยภาพของผู้ให้บริการทางการเงินแต่ละราย ที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ตลอดจนพัฒนาการให้บริการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้ใช้บริการแต่ละรายได้ดีขึ้น

2. การรับมือของผู้เล่นในภาคการเงิน (ธนาคารพาณิชย์, Non bank และ Virtual Bank) กับความท้าทายของโจทย์เชิงโครงสร้าง เช่น หนี้ครัวเรือนสูง รายได้ครัวเรือน และภาคธุรกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการปล่อยสินเชื่อ ทั้งรายย่อยและ SMEs



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ