ผลการสำรวจโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการคอร์รัปชั่น พบว่า มีแนวโน้มสูงมากที่บริษัทรัสเซียและจีนจะติดสินบนในการทำธุรกิจในต่างประเทศ โดยรัสเซียและจีนรั้งอันดับท้ายสุดจากทั้งหมด 28 ประเทศ ในการจัดอันดับที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจำนวน 3,000 ราย
เนเธอร์แลนด์และสวิสเซอร์แลนด์ครองอันดับ 1 ร่วมกันในฐานะประเทศที่มีความโปร่งใส ตามด้วยเบลเยียมในอันดับ 3, เยอรมนีและญี่ปุ่นอันดับ 4, ออสเตรเลียและแคนาดาอันดับ 6, อังกฤษและสิงคโปร์อันดับ 8 และสหรัฐอเมริกาอยู่ในอันดับ 10
ทั้งนี้ เพื่อชนะการประกวดราคาในการรับเหมางานและสัญญาการก่อสร้างจากภาครัฐ การติดสินบนกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่พบได้ทั่วไป
รายงานของ TI ระบุว่า "เป็นเรื่องน่าวิตกมากเป็นพิเศษที่จีนและรัสเซียอยู่ในอันดับล่างสุดของดัชนี" เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทของสองประเทศนี้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกมากขึ้น การติดสินบนและการคอร์รัปชั่นน่าจะมีผลอย่างมากต่อสังคมที่ธุรกิจนั้นๆดำเนินการอยู่ รวมทั้งมีผลต่อความสามารถของบริษัทต่างๆ ที่จะแข่งขันอย่างเป็นธรรมในตลาดเหล่านั้น
ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ต่างก็ได้รับอันดับที่สูงกว่าจีนและรัสเซียซึ่งอยู่ในอันดับ 27 และ 28 ตามลำดับ โดยอินเดียอยู่ในอันดับที่ 19 และบราซิลอยู่ในอันดับที่ 14 ซึ่งสูงกว่าอิตาลีอยู่หนึ่งอันดับ
รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้นานาชาติดำเนินการมากขึ้นเพื่อลงโทษบริษัทที่ติดสินบนในต่างประเทศ
อูแกทท์ ลาแบลล์ ประธานองค์กร TI ระบุว่า รัฐบาลกลุ่มประเทศ จี20 จะต้องแก้ปัญหาการติดสินบนของบริษัทต่างชาติอย่างเร่งด่วน
TI ระบุว่า รัสเซีย ซึ่งอยู่ในอันดับท้ายสุดของตารางเป็นกรณีที่ท้าทายเป็นอย่างยิ่ง
ด้านเอเลนา แพนฟิโลวา ผู้อำนวยการ TI ประจำรัสเซียกล่าวว่า "โชคร้ายที่ไม่มีจริยธรรมในส่วนราชการและเอกชนของรัสเซีย"