
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ในการขยายระยะเวลา และปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปรับปรุงใหม่) และอนุมัติวงเงินรวมไม่เกิน 750 ล้านบาท สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในส่วนการขยายระยะเวลา จะขยายออกไปจากที่จะครบกำหนดในวันที่ 30 มิ.ย.68 เป็น 30 ธ.ค.70
ส่วนการปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการฯ มีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศซึ่งมีบุคคล สัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน ประกอบกิจการการผลิตการให้บริการ ค้าส่ง และค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีสถานประกอบการอยู่ในเขตจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอ ใน จ.สงขลา (อ.เทพา จะนะ นาทวี และสะบ้าย้อย) โดยอาจเป็นผู้ประกอบการที่มีวงเงินสินเชื่อเดิม หรือผู้ประกอบการรายใหม่ และรวมถึงการรับซื้อหรือรับโอนกิจการ เพื่อดำเนินธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าว
2. วัตถุประสงค์ เพื่อบรรเทาภาระดอกเบี้ยของยอดสินเชื่อคงค้าง และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูกิจการในรูปของการกู้ยืมเงินประเภทวงเงินหมุนเวียนแบบมีกำหนดระยะเวลาเป็นลำดับแรก และสามารถให้เป็นสินเชื่อระยะยาว (L/T) เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุนขยายกิจการได้ เช่น ขยายโรงงาน ซื้อเครื่องจักร เป็นต้น
3. วงเงินรวมทั้งโครงการฯ 15,000 ล้านบาท
4. วงเงินกู้ต่อรายและระยะเวลาชำระเงินกู้
- ผู้ประกอบการที่เคยได้รับสินเชื่อของโครงการฯ วงเงินกู้สูงสุดต่อรายรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท และไม่เกินวงเงินที่เคยได้รับ
- ผู้ประกอบการรายใหม่ วงเงินกู้สูงสุดต่อรายรวมทุกสถาบันการเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต้องชำระคืนเงินกู้ให้คงเหลือไม่เกิน 10 ล้านบาท ภายในวันที่ 30 มิ.ย.70 หลังจากนั้น ต้องชำระเงินกู้ส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธ.ค.70
5. วิธีการให้ความช่วยเหลือ
- ธนาคารออมสิน จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ โดยการให้กู้ยืมเงิน ผ่านสถาบันการเงิน ซึ่งประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ที่เข้าร่วมโครงการฯ
- ธนาคารออมสินสามารถใช้วงเงินโครงการเพื่อให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการได้เช่นเดียวกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ
6. อัตราดอกเบี้ย
- ธนาคารออมสิน คิดดอกเบี้ยจากสถาบันการเงินในอัตรา 0.01% ต่อปี
- สถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยจากผู้ประกอบการในอัตรา 1.99% ต่อปี
7. จำนวนเงินและอายุของตั๋วสัญญาใช้เงิน ธนาคารออมสิน จะให้กู้ยืมเงินผ่านสถาบันการเงินในอัตราเต็มตามจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบการ หรือตามรายงานสรุปยอดสินเชื่อของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ตั๋วสัญญาใช้เงินแต่ละฉบับต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทและไม่มีเศษของหลักพัน โดย
- กรณีเป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการการผลิตไม่เกิน 360 วัน นับแต่วันที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน และกิจการอื่น ๆ ไม่เกิน 180 วัน นับแต่วันที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
- กรณีเป็นสินเชื่อระยะยาว (L/T) ไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน นับแต่วันที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
8.ระยะเวลาโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68 ถึงวันที่ 30 ธ.ค.70 (2 ปี 6 เดือน) โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.69 หรือจนกว่าวงเงินที่กำหนดไว้จะถูกจัดสรรหมด แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน