สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและสถาบันการเงินที่ถือครองพันธบัตรของกรีซนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 17.8 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,729.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,715.50-1,745.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 121.20 เซนต์ ปิดที่ 33.943 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.85 เซนต์ ปิดที่ 3.581 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,601.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 13.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 648.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากคณะรัฐมนตรีกรีซอนุมัติแผนการของนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ที่จะจัดทำประชามติเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซหรือไม่
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในตะกร้าเงิน
เทรดเดอร์บางคนในตลาดทองคำนิวยอร์กเชื่อว่า การที่ตลาดทองคำและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ เป็นผลมาจากบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคักในตลาดหุ้น หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.