
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (26 มิ.ย. เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ส่วนกลาง พร้อมด้วย สำนักงาน กสทช. เขต 14 จ.ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตว่ามีการล้ำข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ซึ่งอาจนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี
จากการตรวจสอบสถานีฐานโทรคมนาคมตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว ตามแผนการตรวจสอบให้บริการโทรคมนาคมที่มีความเสี่ยง คือ ฝั่งตรงข้ามชายแดนไทยมีกาสิโน โดยตรวจสอบสถานีฐานโทรคมนาคมจำนวน 52 สถานีฐาน ผลการตรวจสอบไม่พบการหันสายอากาศไปในทิศทางที่สุ่มเสี่ยงต่อการใช้งานนอกประเทศ

นอกจากนี้กรณีการลักลอบนำออกและใช้งานซิมการ์ดโทรศัพท์ข้ามแดน สำนักงาน กสทช. เขต 14 จ.ปราจีนบุรี ได้เข้าร่วมนำเสนอข้อมูลต่อนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เมื่อต้นเดือน มิ.ย. โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำออกซิมการ์ด ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ร้องขอให้ด่านศุลกากร ช่วยดำเนินการตรวจสอบการลักลอบนำออกซิมการ์ดของประเทศไทยด้วยการใช้เครื่องสแกนในการค้นหาการลักลอบนำออกด้วย
"ตอนนี้ไทยจะลดความแรงของสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดน ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการเพื่อป้องกันไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้สัญญาณไปหลอกลวงประชาชนพร้อมกับประสานผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือให้มาตรวจสอบร่วมกัน โดยจากจุดชายแดนเข้ามายังไทย ระยะห่าง 100 เมตร จะยังคงมีสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต แต่ประสิทธิภาพในการใช้งานอาจลดลงจากเดิม" นายไตรรัตน์ กล่าว
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า นอกจากการลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา สำนักงาน กสทช. จะลงพื้นที่บริเวณชายแดนต่อเนื่อง ได้แก่ จ.จันทบุรี ตราด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ หลังมีการควบคุมการเข้าออกจุดผ่านแดน เพื่อตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดผลกระทบกับคนไทยในพื้นที่ พร้อมทั้งจะตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดการล้ำข้ามแดนไปยังกัมพูชา โดยสำนักงาน กสทช. จะกำชับเรื่องนี้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแต่ละจุดร่วมกัน เพื่อเร่งดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ต่อเนื่อง