ขุนคลัง เผยจ้าง Lobbyist เจรจาภาษีสหรัฐ แพงแต่คุ้มค่า ยืนยันโปร่งใส-ตรวจสอบได้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 27, 2025 18:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ขุนคลัง เผยจ้าง Lobbyist เจรจาภาษีสหรัฐ แพงแต่คุ้มค่า ยืนยันโปร่งใส-ตรวจสอบได้

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเล่าถึงการทำงานเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ ทั้งการตั้งทีมเจรจา การว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา พร้อมยืนยันว่ามีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้


นายพิชัย กล่าวว่า ในส่วนของการทำหน้าที่เจรจา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์การเจรจาภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับสหรัฐฯ มีความซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ มีการมอบหมายหัวหน้าเจรจาหลายหน่วย หลาย Level เช่น

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ (U.S. Department of Commerce)

- สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)

- รัฐมนตรีคลังสหรัฐ (Secretary of the Treasury)

ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงต้องพร้อมรับมือกับทุกแนวทางที่สหรัฐฯ จะดำเนินการ

"นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องมี 2 หน่วยงานหลัก คือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทำงานประสานกันแบบคู่ขนาน เพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ และสามารถเจรจาได้อย่างครอบคลุมในทุกระดับ โดยผม ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาระดับนโยบาย ทำหน้าที่กำกับให้โทนการเจรจาสอดคล้องกับบริบทของสถานการณ์" รองนายกฯ และรมว.คลัง ระบุ

ส่วนอัตราค่าจ้างที่ปรึกษา และบริบทพิเศษของสถานการณ์ปัจจุบันนั้น นายพิชัย กล่าวว่า โดยปกติ อัตราการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาหรือ Lobbyist ในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 20,000 - 300,000 ดอลลาร์/เดือน สำหรับการให้บริการทั่วไป แต่ในกรณีปัจจุบัน สถานการณ์ "Reciprocal Tariff" ทำให้บริษัทที่ปรึกษาซึ่งมีความสามารถเฉพาะทางสูง และมีความสัมพันธ์เชิงนโยบายกับผู้มีอำนาจในรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถเรียกราคาที่สูงขึ้นกว่าปกติได้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นงานที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน แข่งกับประเทศอื่น และเกี่ยวพันกับมูลค่าการค้า และการส่งออกของไทยนับแสนล้านบาทต่อปี

รองนายกฯ และรมว.คลัง ยืนยันในความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะสหรัฐอเมริกา มีกฏหมายการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมาย FARA (Foreign Agents Registration Act) ว่าทุกสัญญาว่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ จะต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดบนเว็บไซต์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (U.S. Department of Justice) อย่างชัดเจน

"ถ้าเราไม่มีตัวช่วยที่ดี ไม่มีทีมที่เข้าใจสหรัฐฯ ไม่มีเครื่องมือที่แข็งแรง ประเทศไทยอาจต้องสูญเสียตลาด ส่งออกสะดุด เกษตรกร ผู้ประกอบการเจ็บหนัก การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศในโลกยุคปัจจุบัน ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจเชิงเทคนิค ความละเอียดรอบคอบ และความกล้าที่จะตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม" นายพิชัย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ