
น.ส.วิภาวิน พรหมบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA, การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และ การประปาส่วนภูมิภาค เปิดตัว "บริการขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ - ค่าไฟ" ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เพื่อใช้ประกอบการสมัครขอสินเชื่อ ภายใต้โครงการ Your Data ที่สนับสนุนให้ประชาชนใช้สิทธิส่งข้อมูลของตนผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อได้รับบริการที่ตอบโจทย์มากขึ้น

โดยบริการดังกล่าว มุ่งพัฒนาบริการให้กับประชาชนที่มีชื่อในทะเบียนผู้ใช้น้ำ-ไฟ (คู่สัญญา) สามารถขอประวัติการใช้และชำระค่าน้ำ-ค่าไฟของตนเองบนแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ได้สะดวก ปลอดภัย และไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับนำไปยื่นประกอบการสมัครขอสินเชื่อกับผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ "ไม่มีรายได้ประจำ"
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ได้รับข้อมูลประวัติดังกล่าวจากประชาชน สามารถนำข้อมูลไปประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ (machine - readable) มีการรับรองด้วยลายมือชื่อดิจิทัล (digital signature) และตรวจสอบได้ว่าข้อมูลไม่ถูกปลอมแปลงแก้ไข ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการให้บริการทางการเงินแก่ประชาชนโดยรวม

"ผู้ให้บริการทางการเงิน สามารถใช้ข้อมูลนี้ประกอบการให้สินเชื่อได้ เพราะถือเป็นข้อมูลจริงที่ส่งมาจากต้นทาง ดังนั้น ผู้พิจารณาสินเชื่อจะมีความสบายใจ มีความมั่นใจในข้อมูล ไม่จำเป็นต้อง verify ข้อมูลอีก และสามารถนำไปประมวลผลเพื่อประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อต่อได้ และจะทำให้รู้จักตัวตนของลูกค้าได้ดีขึ้น จากข้อมูลการใช้นำ-ใช้ไฟ ชำระค่าน้ำ-ค่าไฟ เพิ่มโอกาสของท่านในการเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น" น.ส.วิภาวิน ระบุ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเรียกดู และดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าว และนำไปยื่นเพื่อประกอบการสมัครขอสินเชื่อได้ ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.68 เป็นต้นไป โดยสามารถดูขั้นตอนการเข้าใช้งาน และตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อที่รับเอกสารดังกล่าวได้ที่ https://www.bot.or.th/th/financial-innovation/digital-finance/open-data/Your_Data_Project/utility-data.html

น.ส.วิภาวิน กล่าวว่า สำหรับสถาบันการเงินที่มีความพร้อมเข้าร่วมบริการดังกล่าวในปี 68-69 มีทั้งสิ้น 30 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง, สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่ง และผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) 22 แห่ง
"ทั้งหมดนี้ จะเริ่มทยอยให้บริการ โดยในปี 68 จะมี 13 รายที่พร้อมให้บริการ โดยมี 3 รายที่พร้อมให้บริการได้ตั้งแต่วันนี้เลย ส่วนอีก 17 รายที่เหลือ พร้อมจะให้บริการในปี 69" น.ส.วิภาวิน ระบุ
โดยนอนแบงก์ 3 ราย ที่พร้อมให้บริการวันนี้ ประกอบด้วย 1.บริษัท เงินดีดี จำกัด 2. บริษัท เธียรสุรัตน์ ลีสซิ่ง จำกัด และ 3. บริษัท พี.ซี.ทาวเวอร์ แอนด์ พร้อพเพอร์ตี้ (1996) จำกัด