ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.35 แนวโน้มผันผวน จับตาการเมืองในปท.-ตัวเลขศก.สหรัฐ-เจรจาภาษี "ทรัมป์"

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 3, 2025 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.35 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down ตามการอ่อนค่าลงของเงิน ดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่มาพร้อมกับการทยอยปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) หลังผู้เล่นใน ตลาดทยอยปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

คืนนี้ไฮไลท์จะอยู่ที่รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) เดือนมิ.ย. ดัชนี ISM PMI ภาค การบริการ นอกจากนี้ ตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด พร้อมติดตามแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ บรรดาประเทศคู่ค้า ว่าจะมีประเทศไหนบรรลุข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมหรือไม่

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยัง เสี่ยงเผชิญความผันผวนในลักษณะ Two-Way Volatility และเสี่ยงผันผวนอ่อนค่าได้ มาก หากรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม ออกมาดีกว่าคาด หรือตามคาด แต่หากรายงานยอดการจ้างงานฯ ออกมาแย่กว่า คาด เงินบาทก็มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้น แต่จะไม่มาก

"ความผันผวนของเงินบาท อาจกลับมาสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์หน้า ที่ตลาดการเงินไทยอาจเผชิญแรงกดดันจาก ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย" นายพูนระบุ

นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.15-32.60 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 32.3500 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 143.59 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 144.17/18 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1810 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1772/1773 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.463 บาท/
ดอลลาร์
  • "สุริยะ" เตรียมนำ รมต.ใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ 3 ก.ค.นี้ ช่วงบ่ายประชุม ครม.นัดพิเศษทันที แบ่งงานรองนายกฯ-
รัฐมนตรี มอบ "ภูมิธรรม" ทำหน้าที่ รรท.นายกฯ คนที่ 1 "ชูศักดิ์" มั่นใจคุณสมบัติ "อิ๊งค์" เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิ ญาณรับตำแหน่ง "รม
ว.วธ." ได้ เหตุศาลยังไม่ชี้ขาดคดี
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่ง
ประเทศไทยและหอการค้าไทย และสมาคมทหารไทย เปิดเผยว่า กกร. เตรียมขอเข้าพบธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสร้างความเข้าใจร่วม
กันถึงแนวทางในการมองเศรษฐกิจในแต่ละภาคส่วน
  • ไทยเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐฯ มั่นใจข้อเสนอใหม่น่าสนใจ สร้างความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ยืนยันทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตร
ระยะยาว ส่วนจะลดภาษีให้ไทยเหลือเท่าไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสหรัฐฯ ประธานผู้แทนการค้าไทยมั่นใจแนวทางเจรจามาถูกทาง ยึด
ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย รับยังไม่ชัวร์สหรัฐฯ ขยายเวลาให้หรือไม่
  • แบงก์เอชเอสบีซี ไพรเวท แบงค์ เผยเศรษฐกิจไทยต้นปี 68 เติบโตดีกว่าคาด แม้ยังเผชิญความเปราะบางภายใน พร้อม
แนะนักลงทุนจับตา 4 ธีมการลงทุนในเอเชีย ทั้งโอกาสจาก AI จีน หุ้น ROE สูง บริษัทชั้นนำในภูมิภาค และตราสารหนี้คุณภาพ ท่ามกลาง
ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง
  • SCB FM คาดเงินบาทผันผวน โดยดอลลาร์อ่อนค่าทำให้เงินบาทแข็ง ขณะเดียวกันการเมืองในประเทศก็กดดันให้บาทอ่อน
ค่า รวมถึงมีโอกาสสูงที่ไทยจะถูกสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสูงกว่า 20% ทำบาทอ่อน อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่สหรัฐจับตา หากตลาดแรงงาน
สหรัฐออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด อาจทำให้บาทกลับมาแข็งค่า เป็นจังหวะลูกค้าผู้นำเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับเวียดนามแล้ว โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษี
สินค้านำเข้าจากเวียดนามในอัตรา 20% ซึ่งน้อยกว่าที่สหรัฐฯ เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากเวียดนามสูงถึง 46%
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ลดลง 33,000 ตำแหน่งใน
เดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น
100,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 29,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (2
ก.ค.) หลังตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนของสหรัฐฯ ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (2 ก.ค.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับตัวลง
เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าการชะลอตัวของการจ้างงานอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ
(เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ใน
วันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
  • นักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปรับลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายขนานใหญ่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยร่างกฎหมายดัง
กล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงที่ฉิวเฉียด และขณะนี้ได้ถูกส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอการอนุมัติในขั้นตอนสุด
ท้าย ด้านนักวิเคราะห์เตือนว่าร่างกฎหมายฉบับนี้อาจทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร
กลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น
139,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 4.2% ในเดือนพ.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ