
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ในวันที่ 7 ก.ค.นี้ จะมีการหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เพื่อหาความชัดเจนในเรื่องการเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะ "เลื่อน" หรือ "ถอน" ร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อน โดยจะต้องให้ได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 9 ก.ค. 68 ซึ่งจะมีการประชุมสภาฯ ในสัปดาห์หน้า
รมช.คลัง ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นห่วงเรื่องคะแนนเสียงปริ่มน้ำ แต่ในอีกมิตินั้น มองว่า ขณะนี้มีรัฐมนตรีใหม่หลายคนที่เพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นทุกคนควรมีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้
"ก่อนหน้านี้ ครม.ชุดที่อนุมัติกฎหมาย Entertainment complex เพื่อเสนอเข้าสู่สภาฯ นั้น เป็นการอนุมัติโดย ครม.ชุดเก่า ดังนั้นเมื่อมีการปรับเปลี่ยน ครม. ครั้งใหญ่ ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่กฎหมายที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน และสำคัญนี้ จะต้องนำมาพุดคุยเพื่อให้ตกผลึกกันอีกครั้ง" นายจุลพันธ์ ระบุ
พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้มีเหตุการณ์ขัดแย้งกันในสังคมจากความเห็นต่างในเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลต้องการจะลดโทนของสังคมในประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันนี้ลงมาก่อน เพราะเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ อาจจะเป็นตัวหนึ่งในการฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการหยุดเรื่องความขัดแย้ง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นไปได้จริง ก็อาจจะเป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ดังนั้น จึงมีการหารือกันในเบื้องต้นว่า จะมีการเลื่อน หรือถอนร่างกฎหมายดังกล่าวก่อน เพื่อดึงกลับมาพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง
"การจะ เลื่อน หรือ ถอน จะต้องหารือกันในวิปรัฐบาล โดยหากถอน ก็ต้องเป็นหน้าที่ของ ครม. ที่จะส่งมติและแจ้งความประสงค์ในการถอนร่างกฎหมายให้สภาฯ แต่ถ้าสรุปแล้วว่าจะเลื่อน ก็เป็นเรื่องที่สภาฯ จะสามารถวินิจฉัย และสมาชิกเป็นผู้เสนอว่าเลื่อนได้ ซึ่งคำว่าเลื่อนนี้ หมายถึงดึงกลับมาก่อน แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม จึงนำมาพิจารณาอีกครั้ง" นายจุลพันธ์ กล่าว
ส่วนข้อสรุปหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรก็ต้องไปหารือกัน ทั้งนี้ ข้อสรุปจะเป็นอย่างไรก็ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลมั่นใจในเสียงของรัฐบาล ซึ่งหากเสียงสนับสนุนไม่เกินครึ่งหนึ่ง เราก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว แต่ท้ายที่สุดหากเกิดอุบัติเหตุแล้วเสียงไม่เพียงพอที่จะผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ต่อ ก็ต้องว่ากันไปตามกลไกของรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาล จะเข้าใจถึงความจำเป็นที่รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ
รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลยังยืนยันชัดเจนว่า Entertainment Complex เป็นแนวคิดของรัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนภาคการท่องเที่ยว ต้องการดึงเม็ดเงินขนาดใหญ่ระดับแสนล้านบาท เข้ามาในประเทศ ต้องการให้เป็นจุดเปลี่ยนของภาคการท่องเที่ยว ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวใหม่ ๆ เพิ่มทางเลือกให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนจำนวนมากที่แสดงความสนใจ และพร้อมที่จะเข้ามาลงทุน
- ยังหวัง GDP ปีนี้โตเกิน 2%
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 2% โดยยืนยันว่ายังคงเดินหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลจะไม่หยุดเพียงแค่นี้ โดยมองว่าดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย เพราะหากไม่ทำอะไรเลย เศรษฐกิจไทยอาจจะเติบโตได้ต่ำกว่า 1% ไปแล้ว
"เวลารัฐบาลตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจ ก็อยากมองให้ไกล หากเดินไปได้ถึง 3% ก็ happy ดังนั้น การตั้งเป้าจึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพื่อให้เราสามารถเดินไปได้ไกลที่สุด แต่เมื่อมีเหตุขัดแย้งกันในหลายพื้นที่ทั่วโลก มีเรื่องภาษีสหรัฐฯ เข้ามา การเติบโตก็เป็นไปได้ยาก แต่ตอนนี้ก็ตั้งเป้า คาดหวังว่าปีนี้เราจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 2% ตรงนี้คือสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำ และเมื่อมีเหตุปัจจัยภายนอกที่เกินการควบคุมเข้ามา สุดท้ายก็คงปฏิเสธผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่ได้" รมช.คลัง ระบุ