ททท. ถกแผนปี 69 มุ่งปรับสมดุลตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ-เน้นความยั่งยืน

ข่าวท่องเที่ยว Monday July 14, 2025 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ททท. ถกแผนปี 69 มุ่งปรับสมดุลตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ-เน้นความยั่งยืน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2569 (Tourism Authority of Thailand Action Plan 2026 : TATAP 2026) โดยกำหนดนโยบายและทิศทางการตลาด สำหรับใช้เป็นกรอบปฏิบัติงาน ในการเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มุ่งปรับสมดุลโครงสร้างตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว สู่มาตรฐานความยั่งยืน (Move toward Sustainability)

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวไทย ต้องก้าวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และบริบททางการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเปลี่ยนจากการเน้นปริมาณมุ่งสู่คุณภาพ ด้วยการมุ่งเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง กลุ่มความสนใจพิเศษ อาทิ Health & Wellness การท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ททท. ถกแผนปี 69 มุ่งปรับสมดุลตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ-เน้นความยั่งยืน

ดังนั้น ต้องมีการกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่ง สร้างสมดุลระหว่างตลาดในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงตลาดระยะใกล้ และระยะไกล ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่านการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเมืองหลัก สู่เมืองน่าเที่ยว และเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตในทุกรูปแบบ ขณะเดียวกัน ต้องส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตระหนัก และปรับตัวสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ

ด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การประชุม TATAP 2026 ครั้งนี้ ททท. ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานในปี 2569 เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมุ่งสู่คุณภาพ สร้างสมดุล และความยั่งยืน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เฉพาะตัว ความปลอดภัย และความยั่งยืน

ททท. ถกแผนปี 69 มุ่งปรับสมดุลตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ-เน้นความยั่งยืน

โดยได้ทบทวนจุดยืนใหม่ โดยเฉพาะการปรับสมดุลตลาดให้ตอบโจทย์นโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้ในระยะสั้น และวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดบนพื้นฐานข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกของนักท่องเที่ยว และบูรณาการการทำงานแบบ 360 องศา กับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์

สำหรับการดำเนินงานส่งเสริมตลาดต่างประเทศ จะเน้นการ Relocation สร้างความสมดุลตลาดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แก้ปัญหาภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่าในสายตานักท่องเที่ยว และการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยว รวมถึงเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีกำลังซื้อ และใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

ขณะที่ตลาดในประเทศ จะมุ่งเพิ่มความถี่ในการเดินทางของคนไทย ทั้งภายในภูมิภาคและข้ามภูมิภาค ด้วยการจัดกิจกรรม และบิ๊กอีเวนต์ให้เกิดการเดินทางตลอดทั้งปี การใช้กลยุทธ์ City Marketing นำเสนอจุดขายใหม่ ๆ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเสน่ห์ไทย เพื่อส่งเสริมการเดินทางสู่เมืองน่าเที่ยว การสร้างสมดุลตลาดระหว่างนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติในพื้นที่เมืองหลักยอดนิยม ทั้งในเชิงพื้นที่ และเวลา

ขณะเดียวกัน จะพัฒนาสินค้าและเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อสนองตอบความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทั้งระยะสั้นและยาว พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการท่องเที่ยวสู่มาตรฐานยั่งยืนระดับสากล รวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางของนักท่องเที่ยว

โดย ททท. เชื่อมั่นว่า จะนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญของประเทศในการสร้างเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ ททท. เตรียมแถลงทิศทางการส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ในวันที่ 21 ก.ค.68 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในเวลา 09.00-17.00 น. จะมีการจัดกิจกรรม Market Briefing นำเสนอสถานการณ์ตลาด และแนวทางการส่งเสริมตลาดของททท. สำนักงานต่างประเทศในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก และการจัดกิจกรรม Tourism Clinic เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจได้พบปะหารือกับผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานต่างประเทศ เพื่อหาโอกาสในการทำตลาดศักยภาพ ปิดท้ายด้วยการแถลงทิศทางการดำเนินงานด้านการตลาด ททท. ปี 2569 แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการภาคเอกชนในแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ