
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยืนยันว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ไม่ได้เป็นการทำเพื่อเอื้อนายทุนตามที่พรรคประชาชนกล่าวหา แต่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชน อีกทั้งยังเป็นนโยบายที่ได้เตรียมไว้ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเป็น รมว.คมนาคม ซึ่งต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ประชาชน ขณะเดียวกัน หากประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้ากันมากขึ้น ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาการจราจร ช่วยลดมลพิษ และลดปริมาณฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดี
"อยากให้ไปดู ว่าพรรคประชาชนก็เสนอนโยบายและต้องการทำแบบนี้เช่นกัน เป็นนโยบายเดียวกัน ดังนั้น จะบอกว่าเป็นการเอื้อนายทุนคงไม่ใช่ ขอชี้แจงว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชน ซึ่งเลขาฯ กฤษฎีกาก็เคยบอกว่า เป็นนโยบายที่มองไปที่ประชาชนเป็นหลัก เรามองไปที่ประชาชน ไม่ใช่นายทุน" รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ระบุ
พร้อมปฏิเสธว่า การเร่งผลักดันโครงการนี้ ไม่ได้เป็นเพราะเตรียมเข้าสู่ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งตามที่มีการตั้งข้อสังเกตกันแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะได้ประกาศมาก่อนหน้านี้แล้ว ว่าจะผลักดันให้เริ่มดำเนินการได้จริงตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง
สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ทำโครงการนี้ นายสุริยะ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลัง และดูทั้งหมดแล้วว่าเราสามารถมีแหล่งเงินที่จะมาสนับสนุนในส่วนนี้ได้
"เงินทั้งหมดนี้ เป็นรายได้จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ส่วนหนึ่ง เมื่อประกอบกิจการแล้วได้กำไร ก็นำเงินส่วนนั้นมาช่วย ซึ่งในเบื้องต้น คาดว่าประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท" รองนายกฯ และรมว.คมนาคม กล่าว
ส่วนที่ยังไม่สามารถทำให้ครบวงจรครอบคลุมไปถึงรถเมล์ได้นั้น เป็นเพราะต้องดำเนินการไปทีละ step โดยกรณีของรถเมล์ ได้มีการศึกษาไว้แล้วว่าต้องมีกลไกอย่างไร ซึ่งอาจต้องเพิ่มเงินอีกเล็กน้อย เพื่อให้สามารถใช้บริการรถเมล์ปรับอากาศได้ โดยขณะนี้กำลังศึกษาเรื่องแหล่งเงินว่าต้องใช้งบประมาณปีละเท่าไร