พปชร. สับรัฐบาลต่อรองภาษีทรัมป์ล่าช้า-เจรจาผิดทิศ หวั่นศก.ส่งผลกระทบรุนแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 15, 2025 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พปชร. สับรัฐบาลต่อรองภาษีทรัมป์ล่าช้า-เจรจาผิดทิศ หวั่นศก.ส่งผลกระทบรุนแรง

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฝ่ายเศรษฐกิจ ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า การเจรจาต่อรองเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ของทีมไทยแลนด์ อาจไม่ทันการณ์ หลังสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีอากรสำหรับสินค้าไทยในอัตรา 36% ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นั้น

หากการเจรจาล้มเหลว จะส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก เพราะในปี 2567 ไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ เป็นตลาดอันดับหนึ่ง โดยมีมูลค่าการส่งออกราว 1.93 ล้านบาท คิดเป็น 10.38% ของ GDP หากยอดส่งออกลดลง จะส่งผลให้โรงงานต้องปลดคนงาน ลามไปถึงคนงานของซัพพลายเออร์ด้วย และไทยจะมีอุปสรรคในการแสวงหาตลาดใหม่ทดแทน เพราะไทยส่งออกไปสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด และรูปแบบลักษณะสินค้าที่ผลิตเพื่อตลาดสหรัฐฯ มีราคาแพงนั้น ทำให้ไม่สามารถหาตลาดทดแทนได้ง่ายในประเทศที่รายได้ต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นในเอเชีย แอฟริกา หรืออเมริกาใต้

กรณีสินค้าใดที่เหมือนหรือคล้ายกับสินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน หากสินค้าไทยโดนภาษีในอัตราที่สูงกว่าเพื่อนบ้าน ปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่แค่ยอดขายลดลงเพียงบางส่วน แต่อาจจะถึงขั้นเหลือศูนย์ คือจะขายไม่ได้เลย เพราะผู้ซื้อในสหรัฐฯ จะไม่มีเหตุผลความจำเป็นใดที่จะต้องซื้อจากไทยที่ราคาแพงกว่า

นายธีระชัย ยังตำหนิทีมไทยแลนด์ ที่ไม่เปิดเผยแนวทางการเจรจาให้นักวิชาการในประเทศช่วยกันเสนอแนะทางออก เพราะเท่าที่เห็นข้อมูลที่เผยแพร่ในสื่อนั้น เห็นว่าทีมเจรจาเสนอผิดทาง เช่น ไปเสนอว่าไทยจะตั้งเป้าลดยอดขาดดุลการค้ากับสหรัฐลง 70% ภายใน 5 ปี ลดลง 100% ภายใน 7-8 ปี ทั้งที่ปธน.ทรัมป์ต้องการให้มีผลสรุปที่จับต้องได้ทันที

รวมทั้งที่ไปเสนอว่า ไทยจะซื้อเครื่องบินโดยสาร และซื้อก๊าซธรรมชาติ ทั้งที่สหรัฐฯ ย่อมรู้ดีว่ารัฐบาลไทยแตกต่างจากกรณีประเทศจีนที่ไม่มีอำนาจที่จะบังคับบริษัทเอกชนได้จริง ส่วนการลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ก็เห็นว่าล่าสุดทีมเจรจาก็ยังเสนอลดเหลือ 0% เฉพาะสินค้าบางอย่าง ยังมิใช่สำหรับสินค้าทั้งหมด

นายธีระชัย ได้แนะนำให้ทีมเจรจาอ่านข้อความของประธานาธิบดีทรัมป์ใน Truth Social ซึ่งกล่าวถึงโมเดลของเวียดนาม ที่ลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เหลือ 0% สำหรับสินค้าทั้งหมดอย่างชื่นชมว่า "เวียดนาม จะทำในสิ่งที่ไม่เคยให้แก่ประเทศใดมาก่อน คือ จะเปิดตลาดเต็มที่ให้แก่สหรัฐฯ กล่าวคือ เวียดนามจะเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าสหรัฐฯ จะสามารถส่งสินค้าไปขายโดยเสียภาษี 0%" จะเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเน้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่คนอเมริกัน

นายธีระชัย เสนอแนะการเยียวยาผู้ที่ถูกผลกระทบว่า อาจจะพิจารณาเก็บภาษีการส่งออกไปสหรัฐฯ จากผู้ส่งออกรายใหญ่ในอัตราต่ำ เช่น 2-3% ซึ่งจะเก็บรายได้ปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท สามารถนำไปใช้เยียวยาช่วยเหลือเกษตรกร และพ่อค้ารายย่อยที่ถูกกระทบจากเวียดนามโมเดลได้ พร้อมเตือนอีก 3 ประการ คือ

1. ทีมเจรจาจะต้องยืนกรานไม่ยินยอมแลกผลประโยชน์ทางการค้ากับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคง อันจะกระทบต่อภาพพจน์ความเป็นกลางระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอย่างเด็ดขาด และมั่นใจว่าความใกล้ชิดที่มีมาช้านานระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ทั้งในด้านกลาโหม และด้านการต่างประเทศ จะอธิบายจุดยืนนี้ให้แก่สหรัฐฯ ได้ จึงควรเพิ่มข้าราชการทั้ง 2 ด้านเข้าไปในทีมไทยแลนด์ด้วย

2. ต้องหาทางจบให้เร็วที่สุด เพื่อมิให้การวางแผนลงทุนของเอกชนในการสร้างหรือขยายโรงงานสะดุดลง

3. รัฐบาลมีหน้าที่ทำการเจรจาให้โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเน้นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง ไม่มีการกักเรื่องเพื่อปกป้องคุ้มครองธุรกิจผูกขาดใด ๆ และประกาศแผนและเป้าหมายการช่วยเหลือเยียวยาให้ชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ