ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศเปิดตลาดเช้านี้ ปรับตัวลดลงจากเมื่อวานบาททองคำละ 250
เมื่อเวลา 09.05 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำครั้งแรก ดังนี้
- ทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 51,250 บาท ขายออก บาททองคำละ 51,350 บาท
- ทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 50,225.08 บาท ขายออก บาททองคำละ 52,150.00 บาท
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองโลกยังคง Sideway จากเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ประจำเดือนมิ.ย. สูงกว่าครั้งก่อนในเดือนพ.ค. ในขณะเดียวกัน ธนาคารยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อย่างซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/68 โดยมีรายได้ 2.167 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.098 หมื่นล้านดอลลาร์ และธนาคารยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ อีกแห่งอย่าง เวลส์ ฟาร์โก ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/68 โดยมีรายได้ 2.069 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 2.029 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้เงินสกุลดอลลาร์แข็งค่า จากการที่ตลาดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้ง ในปีนี้ แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ประกาศออกมาสูงกว่าคาดในเดือนมิ.ย. จากการที่รายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 17-18 มิ.ย. มองผลกระทบภาษีทรัมป์ที่ส่งผลให้เงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นเป็นเรื่องชั่วคราว ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ สหรัฐฯ เก็บภาษีอินโดนีเซีย 19% จาก 32% โดยอินโดนีเซีย ตกลงซื้อพลังงานและสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ จำนวน 15,000 ล้านดอลลาร์ และ 4,500 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ทางด้านกองทุน SPDR ถือครองเท่าเดิม รวมสุทธิ 947.64 ตัน
สำหรับการวิเคราะห์ราคาทอง ราคาทองโลกในกรอบเวลา 4 ชั่วโมงอยู่ในระยะ Sideway ปรับฐานลงทดสอบแนวรับที่ระดับ 3,325 ดอลลาร์ จึงประเมินว่าราคาทองโลกอาจมีการฟื้นตัวระยะสั้น โดยมีแนวต้านที่ 3,355 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำแท่ง ราคาทองในประเทศยังคง Sideway ตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ 32.40 บาท และแนวต้านที่ 32.60 บาท จึงแนะนำรอเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 51,200 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 51,700 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 51,000 บาทลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน