รมว.คลัง เก็งผลไทยเจรจาสหรัฐได้อัตราภาษีระดับเดียวกับอาเซียนหลังปรับข้อเสนอใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 18, 2025 13:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.คลัง เก็งผลไทยเจรจาสหรัฐได้อัตราภาษีระดับเดียวกับอาเซียนหลังปรับข้อเสนอใหม่

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงการเจรจาข้อตกลงทางภาษีตอบโต้ระหว่างไทยกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ว่า เป็นการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 บรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดี มีทิศทางชัดเจน ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ มั่นใจว่าข้อเสนอของไทยที่ได้มีการปรับปรุงและยื่นไปใหม่เป็นข้อเสนอที่ดีมาก มีหลักการที่ดี ทำให้คาดว่าไทยน่าจะได้อัตราภาษีที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับภูมิภาคอาเซียน จากล่าสุดอินโดนีเซียได้อัตราภาษี 19% และเวียดนาม 20%

"เราอยู่ในภูมิภาคนี้ ผมขอคาดเดาว่าเราก็น่าจะได้อัตราภาษีที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ส่วนถามว่าจะไม่เกิน 20% หรือไม่นั้น ก็น่าจะแปลว่าอย่างนั้น และผมเข้าใจว่าเราอาจจะไม่ได้คำตอบวันนี้ เพราะเชื่อว่าที่คุยกันล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ข้อมูลน่าจะส่งขึ้นไปถึงระดับสูงวันนี้ แต่ยืนยันว่ามีสัญญาณที่ดีจากบรรยากาศการหารือที่ดี และสหรัฐพูดว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมาก (very substantial improvement)" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าว

พร้อมมองว่า ข้อเสนอใหม่ที่ไทยได้ปรับปรุงและยื่นไปให้สหรัฐได้ตอบสนองกับสิ่งที่เคยหารือกันไว้ทั้งหมด ทั้งการแก้ปัญหาในมิติต่าง ๆ ทำให้บรรยากาศการเจรจาออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Tariffs หรือเรื่องสินค้าผ่านทาง ส่วนการเปิดตลาดสินค้าของสหรัฐนั้น ยอมรับว่ามี แต่มูลค่าไม่ได้มาก โดยนายพิชัย ย้ำว่าไทยยังยืนอยู่บนหลักการว่าจะต้องให้ความสำคัญและดูแลผู้ผลิตภายในประเทศก่อน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรบางชนิดที่หลายฝ่ายเป็นกังวล

รวมถึงภาคอุตสาหกรรม ที่เป็น Supply chain ของผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นกลุ่มที่จะต้องเข้าไปดูแล แม้ว่าบางอย่างอาจจะต้องมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีการดูแลปริมาณการผลิตในประเทศให้เหมาะสมก่อน และอีกเรื่องที่สำคัญ มองว่าเป็นข้อดีที่ไทยจะถือโอกาสในการเร่งดำเนินการ นั่นคือ การเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ประกอบการภายในประเทศ

สำหรับอุตสาหกรรมที่ยังปรับตัวไม่ทันนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยส่งเสริม และดูแลกันไปก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่สำคัญ และมีไม่มาก เพราะเชื่อว่าจะมีสินค้าบางอย่างที่แม้ว่าเราจะเปิดตลาดให้ แต่สหรัฐฯ ก็อาจจะไม่มีสินค้าส่งเข้ามา หรือส่งเข้ามาแล้ว ก็อาจจะแข่งขันไม่ได้ เพราะราคาอาจจะแพงกว่ามาก

"เรื่องการเปิดตลาดของไทยนั้น ผมยังยืนยันบนหลักการที่พูดเสมอว่าต้องดูแลภายในประเทศก่อน ไม่ว่าในเชิงเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมที่เป็น Supply chain ของ SMEs เราต้องดูแลทั้ง 2 ส่วนก่อน เมื่อดูแลแล้วก็จะรู้ว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อน จากนั้นเราก็จะไปเสริมสร้างประสิทธิภาพอย่างเร่งด่วน เพราะว่าจุดที่ดีที่สุดคือการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้ได้ ถ้าเราสร้างได้แล้ว ไม่ว่าประสิทธิภาพต้นทุน คุณภาพสินค้า จะไปสู้กับใครก็ได้ทั่วโลก ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ

และเมื่อมีการเปิดตลาด แปลว่าประเทศไทยต้องพร้อมที่จะเดินไปในแนวรุก ไม่ใช่ว่าสั่งสินค้าเข้ามาเพื่อลดขาดดุลเพียงอย่างเดียว แต่เราจะต้องเปิดแนวรุก ขนาดเศรษฐกิจต้องใหญ่ขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้น เมื่อซื้อเพิ่ม ก็ต้องขายเพิ่มให้ทั่วโลกให้ได้ ตรงนี้ต้องทำควบคู่กันไป" รองนายกฯ และรมว.คลังกล่าว

ส่วนประเด็นเรื่องความมั่นใจว่าข้อเสนอใหม่ของไทยจะตรงเป้าหมายของสหรัฐหรือไม่นั้น นายพิชัย กล่าวว่า "มีใครในโลกนี้ ที่เสนอตรงเป้าทั้งหมด บอกให้ผมฟังหน่อย คงไม่มีหรอกครับ"

นายพิชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองว่าข้อเสนอที่ได้มีการปรับปรุงไปใหม่นั้น น่าจะเข้าเป้าหมายได้ดีที่สุด และไม่ได้เป็นเป้าหมายที่ประเทศไทยจะต้องฝืนใจตัวเอง แต่เป็นเป้าหมายที่ทำให้ไทยจะต้องยอมรับว่า ไทยจะต้องเปิดให้กว้างขึ้น และเข้าไปยืนอยู่ในจุดที่ประเทศไทยจะสามารถดำเนินการได้ โดยยังอยู่บนหลักการ win-win ของประเทศ

ส่วนกรณีเรื่องสินค้าสวมสิทธิส่งออกนั้น นายพิชัย กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องมาหารือกันต่อว่าจะดูแลเรื่องนี้อย่างไร จะมีการคิดอัตราภาษีแบบ 2 tier แบบเวียดนามหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่าสหรัฐฯ และเวียดนามมีการตกลงกันอย่างไร แต่ในฐานะที่ทำงานเรื่องนี้ มองว่าสินค้าที่ซื้อขายมีหลายกลุ่ม ดังนั้นสหรัฐฯ ก็อาจจะมีการคิดอัตราภาษีนำเข้าในหลายอัตรา ซึ่งยังเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ