เปิดเกมรุกท่องเที่ยว! "สรวงศ์" เร่งเครื่องหาตลาดใหม่ทดแทนจีน ลุยจัดอีเวนท์ระดับโลก

ข่าวท่องเที่ยว Friday July 18, 2025 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เปิดเกมรุกท่องเที่ยว!

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในงานเสวนา "ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก" หัวข้อ "เปิดตลาดท่องเที่ยวใหม่ สร้างสมดุลนักท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาค เดินทางท่องเที่ยวไทย" ว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ดังนั้น ในปีนี้จึงมีความหวังว่าจะสามารถกลับไปเทียบเท่าก่อนช่วงก่อนโควิด-19 ได้ โดยตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 68 ไว้ที่ 39 ล้านคน และคาดหวังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท และยังตั้งเป้าที่ท้าทายไว้ที่ 3.5 ล้านล้านบาท พร้อมประกาศแคมเปญ Amazing Thailand Grand Tourism and Sport Year 2025 รวมถึงแคมเปญต่าง ๆ ที่เป็น Event ระดับโลกเพื่อมาเสริมเรื่องการท่องเที่ยว

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในปีนี้ ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญเข้ามาไทยลดลง ซึ่งในช่วงต้นปี ตนได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศเวียดนาม และได้สอบถามกับผู้บริหารสายการบินเวียตเจ็ทว่า จริงหรือไม่ที่นักท่องเที่ยวจีนไหลไปเที่ยวเวียดนาม ซึ่งได้ทราบคำตอบว่า ไม่จริง แต่นักท่องเที่ยวจีนลดลงไปเกือบทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแค่เมืองไทย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยพึ่งพาตลาดจีนมากพอสมควร โดยเฉพาะรายใหญ่ ๆ ที่ลงทุนไปจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง จึงส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจของไทย

อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวที่พอจะช่วยทดแทนตลาดจีนได้ คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดใหม่ เช่น นักท่องเที่ยวอิสราเอล ที่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 70% จากปีที่แล้ว นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวตลาดระยะไกลอื่น ๆ เช่น สหราชอาณาจักร ก็เข้ามาเกือบ 30% และนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ, อิตาลี และอินเดีย ก็เข้ามาเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ซึ่งปีที่แล้วทำ New High เข้ามาเที่ยวไทยมากถึง 2.1 ล้านคน และล่าสุดในปีนี้ผ่านไปแค่ครึ่งปี นักท่องเที่ยวอินเดียเข้าไทยเกือบ 1 ล้านคนแล้ว

"หลังจากนี้ จะมีอีเวนท์ต่าง ๆ ที่รัฐบาลมองเห็นว่าสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มได้ มองว่าภาคท่องเที่ยว ยังเป็นความหวังอยู่แน่นอน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบแผนให้กระทรวงฯ ปรับ KPI ซึ่งแต่ก่อน เคยเน้นตัวเลขนักท่องเที่ยว ไม่ได้เน้นตัวเลขการใช้จ่ายต่อหัวมากนัก แต่คราวนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บาลานซ์ KPI ทั้งปริมาณและรายได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวระยะไกล มาอยู่นานขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลง แต่โดยภาพรวมทั้งหมดแล้ว ยังสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยได้แน่นอน" นายสรวงศ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีแคมเปญ และโครงการต่าง ๆ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ และคนไทย โดยในงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาท ก็มีส่วนที่นำมากระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย และกระตุ้นภาคเอกชน ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ทั้งในเรื่องไฟลท์บิน และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ รวมทั้ง Online Travel Agency (OTA) ที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยด้วย

รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไว้ว่า ไม่อยากให้เมืองไทยมีซีซันในการท่องเที่ยว แต่อยากให้สามารถเที่ยวได้ทั้งปี ซึ่งในวันที่ 21 ก.ค.นี้ ททท.จะประกาศแผนและทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เน้นการกระจายรายได้สู่ชุมชน และเมืองรองต่าง ๆ ในส่วนของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ขณะนี้ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้ ยังเหลือสิทธิ์อีกประมาณ 3 แสนสิทธิ์

สำหรับโครงการ Sport tourism ในช่วงกลางปีนี้ ไทยได้รับโอกาสการเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน FIVB Volleyball Women's World Championship 2025 ซึ่งนักกีฬาจาก 32 ประเทศ จะเดินทางมาแข่งในประเทศไทย ถือเป็นการสร้างโอกาสให้ 4 จังหวัดที่เป็นเจ้าภาพ ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต นครราชสีมา และเชียงใหม่ โดย ททท. และกระทรวงฯ ได้ทำแพ็คเกจให้นักกีฬา และแฟนคลับที่จะมาเชียร์กีฬา มาใช้จ่ายและอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้นด้วย นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ ประเทศไทยยังได้เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33 และในช่วงต้นปี 69 จะเป็นเจ้าภาพงานอาเซียนพาราเกม ครั้งที่ 13 ด้วย

"ทั้งหมดนี้ จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ และล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องที่ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขัน Formula 1 แล้ว ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่วางแผนไว้ 10 กว่าปีแล้ว แต่ถูกทิ้งร้าง และประเทศเพื่อนบ้านฉกฉวยโอกาสไป สิ่งที่อยากบอก คือการกีฬา และการท่องเที่ยวของไทย สามารถผสานด้วยกันได้ ทั้ง 2 ส่วนต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนั้นสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้" นายสรวงศ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ