ร่วงต่อ! เงินเฟ้อ ก.ค. -0.7% ติดลบเดือนที่ 4 จากราคาพลังงานลด พาณิชย์ยันไม่ใช่เงินฝืด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 6, 2025 11:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร่วงต่อ! เงินเฟ้อ ก.ค. -0.7% ติดลบเดือนที่ 4 จากราคาพลังงานลด พาณิชย์ยันไม่ใช่เงินฝืด

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนก.ค.68 อยู่ที่ 100.15 ลดลงจากเดือนเดียวกันของปีก่อน -0.70% (YoY) จากตลาดคาด -0.4 ถึง -0.5% โดยอัตราเงินเฟ้อ ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าในกลุ่มผักสด ผลไม้สด และของใช้ส่วนบุคคล ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่ากระแสไฟฟ้า ตามมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ

ร่วงต่อ! เงินเฟ้อ ก.ค. -0.7% ติดลบเดือนที่ 4 จากราคาพลังงานลด พาณิชย์ยันไม่ใช่เงินฝืด

"เงินเฟ้อ ก.ค.ที่ลดมาก มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ราคาพลังงาน ทั้งเบนซิน แก๊สโซฮอล์ ดีเซล และค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ ที่ต่างจากปีก่อนถึง 6 บาท รวมทั้งปัจจัยจากราคาพืชผัก ผลไม้สด ที่ราคาลดลงค่อนข้างมากถึง 22 รายการ จากทั้งหมด 32 รายการที่เราเก็บข้อมูล ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน ก.ค.ลดลง" นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. ระบุ

ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.68) สูงขึ้น 0.21%

ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือนก.ค.68 อยู่ที่ 101.40 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.84% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เฉลี่ย 7 เดือนแรกปีนี้ สูงขึ้น 0.95%

  • แนวโน้มเงินเฟ้อ ส.ค.ยังติดลบ คาดพลิกเป็นบวกช่วง Q4/68

นายพูนพงษ์ คาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อเดือนส.ค.ว่า จะยังอยู่ในระดับต่ำใกล้เคียงกับเดือนก.ค. โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 3 จะยังติดลบอยู่ที่ระดับ -0.50% และจะกลับไปขยายตัวเป็นบวกได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

สำหรับปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่

1) ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ และความตึงเครียดจากความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอยู่ในระดับจำกัด

2) ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนพ.ค. - ส.ค. 68 ลง 17 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.98 บาท/หน่วย

3) ราคาผักสดและผลไม้สด อยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบ

มากขึ้น

4) ค่าบริการด้านการท่องเที่ยวปรับตัวลดลง ตามสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวต่าง ๆ ประกอบกับผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เพื่อตอบรับโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ 1) ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น เนื้อสุกร มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หลายสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะราคาน้ำมันพืช และเนื้อสุกร และ 2) อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) ต่อประเทศคู่ค้าต่าง ๆ มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเป็นอัตราที่ต่ำกว่าครั้งก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกทยอยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น

  • ย้ำแม้เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 4 เดือน แต่ไม่เข้าภาวะเงินฝืด

นายพูนพงษ์ ยืนยันว่า แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะติดลบต่อเนื่องกัน 4 เดือน แต่ไม่ใช่สถานการณ์ของเงินฝืดแต่อย่างใด

"เรื่องเงินฝืดหรือไม่ ต้องดูที่อุปสงค์ ปัจจัยหลัก (ที่เงินเฟ้อลดลง) มาจาก 2 เรื่อง ซึ่งไม่ได้มาจากปัจจัยอุปสงค์ แต่เป็นเรื่องของราคาน้ำมัน พลังงาน ผักผลไม้เป็นหลัก ส่วนหมวดอาหาร และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ก็ยังสูงขึ้น ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ย้อนไปตั้งแต่ปี 67 ก็ยังขยายตัวมาตลอด" ผู้อำนวยการ สนค.ระบุ

อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อของไทยเคยติดลบต่อเนื่องกันถึง 13 เดือน ในช่วงการระบาดของโควิด-19 เมื่อปี 2563 และกลับมาติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน ในช่วงต.ค.66 - มี.ค.67

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ (ตัวเลขล่าสุดเดือนมิ.ย.68) พบว่า เงินเฟ้อของไทย ยังอยู่ในระดับต่ำเป็นอันดับที่ 10 จาก 140 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียน รองจากบรูไน จากทั้งหมด 9 ประเทศในอาเซียนที่มีการรายงานตัวเลข

  • เล็งทบทวนเป้าเงินเฟ้อปี 68 ใหม่ช่วงปลาย Q3

ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ยังคงประมาณการเงินเฟ้อทั้งปีนี้ไว้ที่ 0.0-1.0% หรือค่ากลางที่ 0.50% แต่อาจจะมีการทบทวนตัวเลขเงินเฟ้อใหม่อีกครั้งในช่วงสิ้นไตรมาส 3 โดยขณะนี้ต้องขอรอดูตัวเลขให้นิ่งกว่านี้ก่อน

ส่วนการที่เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง จะเป็นเหตุผลที่อาจทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมรอบวันที่ 13 ส.ค.นี้หรือไม่นั้น นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กนง. แต่ทั้งนี้เห็นว่า การตัดสินใจปรับดอกเบี้ยของ กนง. ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกันไป คงไม่ใช่เรื่องเงินเฟ้อเป็นหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ