ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน บาททองคำละ 250 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก
โดยเมื่อเวลา 16.18 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทอง ครั้งที่ 11 ดังนี้
- ทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 51,850 บาท ขายออกบาททองคำละ 51,950 บาท
- ทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 50,816.32 บาท ขายออกบาททองคำละ 52,750 บาท
บทวิเคราะห์ของบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ระบุว่า ราคาทองคำวันนี้ ขยับขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 3,390 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มความผันผวนในตลาดโลก โดย Financial Times รายงานว่า สหรัฐฯ เริ่มเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่งน้ำหนัก 1 กิโลกรัม และ 100 ออนซ์ ซึ่งกระทบต่อสวิตเซอร์แลนด์ ศูนย์กลางการหลอมทองคำที่ใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของการผลิตทั่วโลก
มาตรการนี้ ทำให้ต้นทุนทุนการส่งทองคำไปตลาด COMEX สูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่ถือสถานะขาย (Short Positions) ในสัญญา EFP ซึ่งหมายถึงการถือสถานะขาย (Short Position) ในสัญญาฟิวเจอร์ทองคำ ควบคู่ไปกับการซื้อทองคำกายภาพ (Physical Gold) จำเป็นต้องปิดสถานะขาย (Short Positions) ในสัญญา EFP เพื่อเลี่ยงการส่งมอบทองคำจริงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการทำธุรกรรมฝั่งตรงข้าม จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาสัญญาฟิวเจอร์ทองคำตลาด COMEX ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก จนส่วนต่าง (Spread) ระหว่างสัญญาฟิวเจอร์ทองคำ ตลาด COMEX กับ Gold Spot กว้างขึ้นจากระดับปกติ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดันจากความหวังว่า ความตึงเครียดในยุโยุรปอาจผ่อนคลายจากการรายงาน Reuters ระบุว่า ปธน.โดนัลทรัมป์ ยอมรับว่าเส้นตายวันที่ 8 ส.ค.68 ให้รัสเซียเดินหน้าสู่การหยุดยิงในยูเครน "อาจไม่ตายตัว" โดยระบุว่า "มันขึ้นอยู่กับเขา (ปูติน)" และแสดงความ "ผิดหวังอย่างมาก" ต่อปูติน แต่พร้อมพบกับผู้นำรัสเซีย แม้ไม่พบกับ ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของเยูครน ซึ่งขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้าที่อ้างว่า ทรัมป์จะพบปูตินก็ต่อเมื่อปูตินยอมพบเซเลนสกีเท่านั้น ท่าทีดังกล่าว เพิ่มความหวังว่าการเจรจาอาจดำเนินต่อ ลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และจำกัดแรงซื้อทองคำในระยะสั้น