KBANK ให้กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้าที่ 32.10-32.80 บาท จับตา GDP-ส่งออกไทย-ถ้อยแถลงเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday August 16, 2025 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกสิกรไทย [KBANK] มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (18-22 ส.ค.68) ที่

ระดับ 32.10-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568และตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟดจากที่ประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole
ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและราคาทองคำในตลาดโลก

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค . บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ก.ค.และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ของอังกฤษและยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือนส.ค. ของอังกฤษและยูโรโซนด้วยเช่นกัน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 3 สัปดาห์ ก่อนจะอ่อนค่าลงช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น(หลังตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการหลังจากช่วงวันหยุดยาว) สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย

ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯเผชิญแรงขายท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้

อนึ่ง เงินบาทยังรักษาช่วงบวกไว้ได้ต่อเนื่องหลังการประชุม กนง.มีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายล

ง 0.25% ไปที่ระดับ 1.50% ช่วงกลางสัปดาห์

อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงช่วงท้ายสัปดาห์สอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ

ฟื้นตัวกลับมาโดยได้รับอานิสงส์จากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงกว่าที่ตลาดคาดในวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ 32.24 ในระหว่างสัปดาห์) เทียบกับระดับ 32.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ส.ค.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 7,764 ล้านบาทและมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflowsออกจากตลาดพันธบัตรไทย 7,219 ล้านบาท(ขายสุทธิพันธบัตร 6,079 ล้านบาท

และตราสารหนี้หมดอายุ 1,140 ล้านบาท)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ