รฟท. จ่อหารือเอกชน ปมแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน หลังอัยการติงขัดมติครม.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 19, 2025 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่รฟท.ได้ส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม.วงเงิน 224,544 ล้านบาท ที่มีบริษัท เอเชียเอราวัน จำกัด(ซี.พี.) เป็นผู้รับสัมปทาน ระยะเวลา 50 ปี ให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย. 2568 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งร่างสัญญาฯ ดังกล่าวกลับมาที่รฟท.แล้ว โดยในวันที่ 18 ส.ค.68 คณะทำงานแก้ไขสัญญาโครงการฯ ที่มีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าฯ รฟท.เป็นประธานและบจ.เอเชียเอราวันจะมีการหารือในความเห็นจากอัยการสูงสุดต่อไป

โดยเบื้องต้นมีความเห็นจากอัยการประมาณ 10 ข้อ เช่น เห็นว่าการแก้ไขร่างสัญญาอาจขัดกับหลักการหรือไม่และรัฐต้องไม่เสียประโยชน์ ซึ่งเมื่ออัยการสูงสุดมีความเห็นมารฟท.จะนำทุกประเด็นมาพิจารณาเพื่อยืนยันว่าที่ได้ดำเนินการแก้ไขมานั้นไม่ขัดต่อหลักการและต้องนำเสนอให้ครบถ้วนแต่หากพิจารณาแล้วขัดต่อหลักการตามความเห็นของอัยการสูงสุดก็ต้องมีการแก้ไขหลักการก็จะนำเสนอเพื่อพิจารณาไปพร้อมกันทั้งแก้ไขหลักการและแก้ไขร่างสัญญาเพื่อไม่ให้ล่าช้า

อัยการ มีความเห็นว่า ควรแก้ไขหลักการให้เสร็จก่อนค่อยแก้สัญญาแต่ในส่วนของรฟท.และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) หรือ EEC มีความเห็นตรงกันว่า หากการแก้ไขสัญญามีผลต่อหลักการเดิมของมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่เห็นชอบไปแล้วก็จะขอแก้ไขหลักการและแก้ไขร่างสัญญาไปพร้อม ๆ กันได้

สำหรับประเด็นความเห็นอัยการสูงสุดเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาที่อาจขัดต่อหลักการสัญญา เช่น กรณีแก้ไขเงื่อนไขการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น 7 งวดเป็นรายปีจำนวนเท่า ๆ กันโดยต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญา อัยการสูงสุดมองว่าถ้าเอกชนยังจ่ายค่าใช้สิทธิ์ไม่ครบถ้วนก็ไม่ควรจะได้สิทธิ์บริหารโครงการซึ่งรฟท.จะยืนยันว่าเงื่อนไขเดิมให้ชำระค่าสิทธิ์เป็นเงินสดงวดเดียวแต่จะแก้เป็นแบ่งชำระเหมือนผ่อนจ่ายโดยมีข้อตกลงและมีหลักประกันเอาไว้ด้วย

รวมถึงกรณีแก้ไขปรับวิธีการชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ (Public Investment Cost: PIC) ทั้งโครงการจากเดิมกำหนดชำระเงินเมื่อก่อสร้างโครงการฯ แล้วเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการเดินรถแล้วจำนวนไม่เกิน 149,650 ล้านบาทรัฐต้องจ่ายเร็วขึ้นตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างที่รฟท.ตรวจรับเป็นวิธีสร้างไปจ่ายไปอาจจะขัดกับหลักการที่แก้ไขด้วยหรือไม่เป็นต้น

โดยหลังจากหารือในวันที่ 18 ส.ค.นี้ หากวิเคราะห์ความเห็นของอัยการสูงสุดแล้วยืนยันไม่ขัดต่อหลักการที่ครม.มีมติจะสรุปส่งไปหารือกับสกพอ., คณะกรรมการกำกับสัญญาบอร์ดอีอีซีเสนอครม.ขอแก้ไขสัญญาอย่างเดียวและลงนามแก้ไขสัญญาฯ ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ