
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ดังนี้
1. โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ระยะที่ 3
2. กรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการโครงการ จำนวน 630.64 ล้านบาท ประกอบด้วย
2.1 ค่าชดเชยดอกเบี้ย จำนวน 630 ล้านบาท ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน 420 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 210 ล้านบาท (ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ยตามที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินโครงการฯ)
2.2 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการฯ 0.64 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชี้แจงประชาสัมพันธ์ และติดตามโครงการ (เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกรมประมง)
นายอนุกูล กล่าวว่า โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องในการประกอบอาชีพการทำการประมง โดยสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และพื้นบ้าน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ธนาคารออมสิน
- เป้าหมาย สนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ
- ระยะเวลา ระยะเวลาโครงการฯ 7 ปี นับจากวันที่ครม. มีมติอนุมัติโครงการฯ
- ระยะเวลาการยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ 6 ปี หรือภายในกรอบวงเงินสินเชื่อตามที่กำหนด แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน
- กำหนดชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน 7 ปี นับแต่วันที่ลงนามในสัญญากู้เงิน แต่ไม่เกินระยะเวลาโครงการฯ
- ประเภทสินเชื่อ เงินกู้ระยะสั้น ตามตั๋วสัญญาใช้เงินหรืออื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ และเงินกู้ระยะยาว เพื่อเป็นเงินทุนในการปรับปรุงเรือประมง ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง
- วงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการประมงที่มีเรือประมงขนาด (1) ตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป และ (2) ตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป และต่ำกว่า 60 ตันกรอส โดยประสงค์ใช้เรือประมงทั้งสองขนาดขอรับสินเชื่อกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง และ ให้กู้สูงสุดไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อไม่นับรวมโครงการฯ ระยะที่ 1 และโครงการฯ ระยะที่ 2
- อัตราดอกเบี้ย ค่าชดเชยดอกเบี้ย 7% ต่อปี โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ อัตรา 4% ต่อปี และรัฐบาลชดเชยให้อัตรา 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปี นับแต่วันที่ลงนามในสัญญากู้เงิน แต่ไม่เกินระยะเวลาโครงการฯ
- งบประมาณ (1) วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 420 ล้านบาท (2,000 ล้านบาท x 3% x 7 ปี) และ (2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประชุมชี้แจง ประชาสัมพันธ์ ติดตามและประเมินผลโครงการฯ รวมเป็นวงเงินดำเนินงาน 0.64 ล้านบาท
หมายเหตุ ให้ธนาคารออมสินสามารถนำค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เกิดขึ้นจากโครงการฯ เพื่อบวกกลับในการคำนวณโบนัสประจำปีของพนักงานได้ และให้ธนาคารออมสิน ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้ และให้แยกบัญชีการดำเนินงานตามโครงการฯ ออกจากการดำเนินงานปกติภายใต้ระบบบัญชี PSA (Public Service Account)
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับการสนับสนุนสินเชื่อ ให้ผู้ประกอบการประมงที่ประสงค์ขอรับการสนับสนุนสินเชื่อติดต่อขอสินเชื่อกับธนาคารตามขนาดเรือประมงที่มี (ตามหัวข้อวงเงินสินเชื่อ) โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
1. คุณสมบัติของผู้ประกอบการประมงที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่
1.1 เป็นบุคคลธรรมดาอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีสัญชาติไทย หรือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย
1.2 เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย
1.3 เป็นผู้ประกอบการประมงที่มีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
1.4 เป็นผู้ประกอบการประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์
2. หลักประกันการกู้เงินให้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ดังนี้ (2.1) ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่มีหนังสือแสดงเอกสารสิทธิสามารถจดทะเบียนจำนองได้ หรืออาคารชุด (2.2) เรือประมง (2.3) บสย. (2.4) บุคคลค้ำประกัน และ (2.5) หลักประกันอื่น ๆ ตามที่ธนาคารประกาศกำหนด
3. หลักเกณฑ์การให้สินเชื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร
4. กรณีผู้ประกอบการประมงประสบปัญหาในการประกอบอาชีพหรือธุรกิจ เช่น ประสบภัยธรรมชาติ สถานการณ์โรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ ให้ธนาคารสามารถช่วยเหลือโดยการบริหารจัดการหนี้ตามมาตรการของธนาคาร ภายใต้กรอบระยะเวลาโครงการและงบประมาณเดิม
5. ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล ให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม
หมายเหตุ ผู้ประกอบการประมงที่ได้รับสินเชื่อภายใต้โครงการฯ โดยมี บสย. ค้ำประกันสินเชื่อควรพิจารณาคุณสมบัติของผู้ประกอบการประมงตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ และวิธีปฏิบัติในการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.
ส่วนหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีปฏิบัติอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ให้ธนาคารงดเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ดังนี้
(1) ค่าธรรมเนียมการประเมินราคาเรือประมงเป็นหลักประกัน
(2) ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจ (ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ : Management Fee หรือค่าธรรมเนียม วิเคราะห์โครงการ : Front End Fee)
(3) ค่าธรรมเนียมกรณีผู้กู้ชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้น หรือไถ่ถอนจำนองก่อนครบกำหนดในทุกกรณี (Prepayment)
ทั้งนี้ ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้านมีแหล่งเงินทุนในการปรับปรุงเรือประมงปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง และเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการประมงให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพประมงเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพต่อไป
2. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- เป้าหมาย สนับสนุนสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ
- ระยะเวลา ระยะเวลาโครงการฯ 7 ปี นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการฯ
- ระยะเวลาการยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ 6 ปี หรือภายในกรอบวงเงินสินเชื่อตามที่กำหนด แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน
- กำหนดชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน 7 ปี นับแต่วันที่ลงนามในสัญญากู้เงิน แต่ไม่เกินระยะเวลาโครงการฯ
ประเภทสินเชื่อ เงินกู้ระยะสั้น ตามตั๋วสัญญาใช้เงินหรืออื่น ๆ ตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ และเงินกู้ระยะยาว เพื่อเป็นเงินทุนในการปรับปรุงเรือประมง ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง
วงเงินสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการประมงที่มีเรือประมงขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส กู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง และให้กู้สูงสุดไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อไม่นับรวมโครงการฯ ระยะที่ 1 และโครงการฯ ระยะที่ 2
- อัตราดอกเบี้ย ค่าชดเชยดอกเบี้ย 7% ต่อปี โดยเรียกเก็บจากผู้กู้ อัตรา 4% ต่อปี และรัฐบาลชดเชยให้อัตรา 3% ต่อปี เป็นระยะเวลา 7 ปี นับแต่วันที่ลงนามในสัญญากู้เงิน แต่ไม่เกินระยะเวลาโครงการฯ
- งบประมาณ (1) วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 210 ล้านบาท (1,000 ล้านบาท x 3% x 7 ปี) และ (2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการประชุมชี้แจง ประชาสัมพันธ์ ติดตามและประเมินผลโครงการฯ รวมเป็นวงเงินดำเนินงาน 0.64 ล้านบาท
หมายเหตุ ให้ ธ.ก.ส. สามารถนำค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เกิดขึ้นจากโครงการฯ เพื่อบวกกลับเป็นรายได้ของธนาคารได้ และให้ ธ.ก.ส. ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้ และให้แยกบัญชีการดำเนินงานตามโครงการฯ ออกจากการดำเนินงานปกติภายใต้ระบบบัญชี PSA (Public Service Account)
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอรับการสนับสนุนสินเชื่อ ให้ผู้ประกอบการประมงที่ประสงค์ขอรับการสนับสนุนสินเชื่อติดต่อขอสินเชื่อกับธนาคารตามขนาดเรือประมงที่มี (ตามหัวข้อวงเงินสินเชื่อ) โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
(1) คุณสมบัติของผู้ประกอบการประมงที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ (1.1) เป็นบุคคลธรรมดาอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีสัญชาติไทย หรือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย (1.2) เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในเรือประมงที่มีทะเบียนเรือไทย (1.3) เป็นผู้ประกอบการประมงที่มีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และ (1.4) เป็นผู้ประกอบการประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์
(2) หลักประกันการกู้เงินให้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ดังนี้ (2.1) ที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่มีหนังสือแสดงเอกสารสิทธิสามารถจดทะเบียนจำนองได้ หรืออาคารชุด (2.2) เรือประมง (2.3) บสย. (2.4) บุคคลค้ำประกัน และ (2.5) หลักประกันอื่น ๆ ตามที่ธนาคารประกาศกำหนด
(3) หลักเกณฑ์การให้สินเชื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร
(4) กรณีผู้ประกอบการประมงประสบปัญหาในการประกอบอาชีพหรือธุรกิจ เช่น ประสบภัยธรรมชาติ สถานการณ์โรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ ให้ธนาคารสามารถช่วยเหลือโดยการบริหารจัดการหนี้ตามมาตรการของธนาคาร ภายใต้กรอบระยะเวลาโครงการและงบประมาณเดิม
(5) ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐบาล ให้สามารถเข้าร่วมโครงการฯ ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม
ส่วนหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีปฏิบัติอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้ธนาคารงดเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ดังนี้
(1) ค่าธรรมเนียมการประเมินราคาเรือประมงเป็นหลักประกัน
(2) ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจ (ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ : Management Fee หรือค่าธรรมเนียม วิเคราะห์โครงการ : Front End Fee)
(3) ค่าธรรมเนียมกรณีผู้กู้ชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้น หรือไถ่ถอนจำนองก่อนครบกำหนดในทุกกรณี (Prepayment)
ทั้งนี้ ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ และประมงพื้นบ้าน มีแหล่งเงินทุนในการปรับปรุงเรือประมง ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง และเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการประมงให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพประมง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพต่อไป
นายอนุกูล ระบุว่า ภายหลังครม. มีมติอนุมัติโครงการแล้ว กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการ ดังนี้ แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการโครงการฯ ประชาสัมพันธ์โครงการฯ แก่ผู้ประกอบการประมง ผู้มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ยื่นประสงค์ที่สำนักงานประมงจังหวัด/อำเภอในพื้นที่ ออกหนังสือรับรองผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ กรณีไม่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ให้สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ออกหนังสือรับรองฯ และพิจารณาผู้มีสิทธิได้รับเงินกู้ สูงสุดไม่เกินวงเงินสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนด