ครม. อนุมัติโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าน่าน-แพร่-อุตรดิตถ์ รองรับซื้อไฟจากลาว

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 19, 2025 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ครม. อนุมัติโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าน่าน-แพร่-อุตรดิตถ์ รองรับซื้อไฟจากลาว

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณ จ.น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (โครงการ NPUP) ภายในวงเงิน 26,220 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ

โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการรับซื้อไฟฟ้า จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำปากแบง ตามนโยบายของภาครัฐที่มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมทั้งเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 - 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1)

โครงการนี้ มีมูลค่าการลงทุนรวม ประมาณ 26,220 ล้านบาท แบ่งการดำเนินโครงการออกเป็น 2 ระยะ มีกำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2574 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานด้วยไฟฟ้าต้นทุนต่ำ โดยมีขอบเขตการดำเนินโครงการ ดังนี้

  • ขอบเขตงานระยะที่ 1

- ขยายสถานีไฟฟ้า 500 230 และ 115 กิโลโวลต์ (500/230/115 kV) น่าน

- ก่อสร้างสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 kV) ชายแดนไทย/สปป.ลาว - น่าน วงจรคู่

- ก่อสร้างสถานีไฟฟ้า (แห่งใหม่) 500 กิโลโวลต์ (500 KV) เด่นชัย

- ก่อสร้างสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 kV) น่าน - เด่นชัย วงจรคู่

- ตัดสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 KV) แม่เมาะ 3 - ท่าตะโก วงจรคู่ (2 แนวสาย) ลงที่สถานีไฟฟ้าเด่นชัย ทั้งสี่วงจร

  • ขอบเขตงานระยะที่ 2

- ก่อสร้างสถานีไฟฟ้า (แห่งใหม่) 500 กิโลโวลต์ (500 kV) ท่าวังผา

- ตัดสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 kV) ชายแดนไทย/สปป.ลาว (จากโรงไฟฟ้าหงสา) - น่านวงจรคู่ และสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 kV) ชายแดนไทย/สปป.ลาว (จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว) - น่าน วงจรคู่ ลงที่สถานีไฟฟ้าท่าวังผา (แห่งใหม่) ทั้งสี่วงจร

- ก่อสร้างสถานีไฟฟ้า (แห่งใหม่) 500 กิโลโวลต์ (500 kV) ร้องกวาง

- ตัดสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 kV) น่าน - แม่เมาะ 3 วงจรคู่ และสายส่ง 500 กิโลโวลต์ (500 kV) น่าน - เด่นชัย วงจรคู่ ลงที่สถานีไฟฟ้าร้องกวาง (แห่งใหม่) ทั้งสี่วงจร

สำหรับเงินทุนในการดำเนินโครงการ NPUP กฟผ. จะพิจารณาแหล่งเงินทุนจากหลายแหล่ง เช่น สถาบันการเงินต่างประเทศ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการออกพันธบัตร หรือลงทุนในประเทศ และเงินรายได้ของ กฟผ. โดยมีสมมติฐานสัดส่วนการจัดสรรแหล่งเงินทุนจากรายได้ของ กฟผ. และแหล่งเงินทุนอื่น ๆ อยู่ที่ 25 : 75 ตามลำดับ

น.ส.ศศิกานต์ ระบุว่า แม้ว่าการลงทุนโครงการมีผลกระทบต่ออัตราค่าไฟฟ้าขายส่ง เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.51 สตางค์/หน่วย (คิดจากมูลค่าปัจจุบันสุทธิที่อัตราคิดลด 5.08%) แต่ผลการคำนวณผลตอบแทนของโครงการ ยังคงอยู่ในระดับที่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยมี FIRR ที่ 17.89% และ EIRR ที่ 19.15%

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กฟผ., สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และได้รับความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติด้วยแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ