นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.29 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.37 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก หลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก เนื่องจากตลาดประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ใกล้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย.นี้
นอกจากนี้บาทยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลาดรอฟังการอ่าน คำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่ายวันนี้
"บาทปรับตัวแข็งค่าลงมาจากเย็นวานนี้พอสมควร ตามทิศทางตลาดโลกที่ดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า เนื่องจากตลาดประเมินว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.20 - 32.40 บาท/ดอลลาร์
SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 32.335 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 146.96 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 147.11 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1675 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.1640 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 32.396 บาท/ดอลลาร์
- ศาลรธน.ชี้ชะตา 'อิ๊งค์' วันนี้ ตัดสินคดีคลิปเสียง นายกฯ เข้าทำเนียบลุ้นคำพิพากษา จากนั้นแถลงเปิดใจหลังรู้ผล ก่อน
เข้าพรรคเพื่อไทยพบสส.-แฟนคลับที่รอให้กำลังใจ
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าแนวโน้มดัชนีราคาส่งออก และดัชนี
ราคานำเข้าเดือน ส.ค.68 หลังสหรัฐเริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้ 19% เป็นเดือนแรก โดยคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งมี 4 ปัจจัยที่
สนับสนุนให้ดัชนีขยายตัว ได้แก่ 1.อัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ที่สหรัฐประกาศใช้กับไทยที่ 19% ยังอยู่ในระดับที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับประเทศ
อื่นในอาเซียน 2.ความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 3.สินค้าอุตสาหกรรมที่
เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเอไอ และดาต้า เซ็นเตอร์ ยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก และ 4.ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการคลังจากการดำเนินโครงการนโยบายของ
รัฐบาลตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ โดยพบว่ายอดหนี้ล่าสุด ณ สิ้นเดือน ก.ย.67 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่
1.02 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นภาระผูกพันที่นับรวมอยู่ในหนี้สาธารณะแล้ว 160,207 ล้านบาท ลูกหนี้รอการชดเชยจากรัฐบาล 648,749
ล้านบาท และประมาณการภาระผูกพันที่ยังไม่มีการรับรู้ 218,862 ล้านบาท โดยคิดเป็น 29.55% ของงบประมาณรายจ่ายซึ่ง ยังอยู่ภายใต้
กรอบเพดานที่กำหนดไว้ที่ 32%
- กรมศุลกากรแก้กฎหมายให้เป็นไปตามข้อตกลงภาษีทรัมป์ คาดเริ่มมีผลบังคับใช้ได้ภายในปลายปีนี้ ต้องลดภาษีนำเข้าสินค้า
ให้สหรัฐฯกว่า 10,000 รายการ ทำรัฐสูญรายได้ราว 8,000 ล้านบาท สศค.เผยเดือน ก.ค.เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี
รับอานิสงส์ส่งออกเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร
มาส 2/2568 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.3% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ
3.0% และดีกว่ามาก เมื่อเทียบกับการหดตัว 0.5% ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 229,000
รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 231,000 ราย
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี
(28 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มสูงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม
เดือนก.ย. หลังจากจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (28 ส.ค.) โดยแรงหนุนนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจาก
แรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่นักลงทุนจับตาการ
เปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อ
มั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)