นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.85 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 31.77 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75 - 31.85 บาท/ดอลลาร์
"บาทแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ แต่ปิดตลาดปรับตัวที่ระดับอ่อนค่าสุดของวัน" นักบริหารเงิน กล่าวโดยคืนนี้ตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.9% จากเดือนก่อน โดยตลาดรอดูผล กระทบจากภาษีทรัมป์ หากเงินเฟ้อติดลบอาจจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.5% แต่หาก เป็นไปตามคาดจะปรับลดแค่ 0.25%
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.65 - 31.90 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.41 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1680 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,288.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.98 จุด (+0.78%) มูลค่าซื้อขาย 46,753.07 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,495.19 ล้านบาท
- ว่าที่รมช.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าหนักสุดในรอบ 4 ปี โดยแนะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
แสดงฝีมือตามแนวทางที่เหมาะสม คือ การใช้ "Smoothing Operation" เพราะ แม้ ธปท. จะมีเครื่องมือแทรกแซงตลาดอัตราแลก
เปลี่ยน แต่จะต้องทำด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ถูกตีความว่า "บิดเบือนค่าเงิน" ตามกฎ FX Manipulation ของสหรัฐอเมริกา
- ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะช่วงไตร
มาส 4/68 หากมีการเริ่มใช้โครงการ "คนละครึ่ง" ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างน้อย 70,000-
100,000 ล้านบาท ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง โตได้ 2-3% ซึ่งเมื่อรวมทั้งปีแล้ว ทำให้มีโอกาสที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยปีนี้
โตได้ไม่ต่ำกว่า 2.5%
- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนส.ค.68 อยู่ที่ระดับ 50.1 โดยปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 7 และ
อยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 32 เดือน นับตั้งแต่เดือนม.ค.66 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง และยังมี
ผลกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยกำลัง
ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และฟื้นตัวได้ช้า
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย คาดว่า ทั้งปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยอาจอยู่ที่ 32.2 ล้านคน หดตัว
9% จากปี 67 แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวท้ายปี แต่หลายปัจจัยลบยังอยู่
- นักลงทุนรอธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ เวลา 19.15 น. ตามเวลาไทย ขณะเดียวกันก็จับ
ตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ด้วย