ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.75 คาดแกว่งไร้ทิศทางก่อนรู้ผลประชุม FOMC แนะจับตาทอง-เงินหยวน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 15, 2025 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากปิดท้ายสัปดาห์ก่อนที่ 31.71 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ที่ไร้ ทิศทางเช่นกัน หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นผลการประชุม FOMC เดือนกันยายน ส่วนราคาทองคำก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง กดดัน ให้ราคาทองย่อตัวลง

สำหรับแนวโน้มเงินบาท อาจแกว่งตัวไร้ทิศทางชัดเจนก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุม FOMC รอบเดือนกันยายน โดยเงินบาท ยังพอมีโซนแนวรับแถว 31.50 บาท/ดอลลาร์ และแนวต้านในช่วง 31.85 บาท/ดอลลาร์

อย่างไรก็ดี เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk โดยมีโอกาสอ่อนค่าลงบ้าง หรืออย่างน้อยการแข็งค่าขึ้นของ เงินบาทก็ควรชะลอลง หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยเท่าที่ตลาดคาดหวัง

ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ และเงินหยวนจีนอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการเคลื่อนไหวของทั้งสองสินทรัพย์อาจส่งผล กระทบต่อเงินบาทได้พอสมควร โดยในส่วนของประเด็นราคาทองคำนั้น ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย จะมี มาตรการอะไรเพื่อลดทอนผลกระทบจากราคาทองคำต่อเงินบาทได้

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 31.65-31.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 147.95/98 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1719/21 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.692 บาท/ดอลลาร์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (12
ก.ย.) โดยดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากร่วงลงเพราะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่าง
มาก และอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นเล็กน้อย
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ +0.35% ปิด
ที่ 3,686.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (12 ก.ย.) และยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็น
ประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อต้นสัปดาห์ โดยสัญญาณการอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ หนุนความคาดหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะ
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีในการประชุมสัปดาห์หน้า
  • นักลงทุนในตลาดการเงิน จับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 16-17 ก.ย. โดย
ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากหยุดพักการปรับลดมาราว 9 เดือน หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า
ตลาดแรงงานชะลอตัวลงอย่างมาก
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ และให้น้ำหนักราว 10% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50%
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อ่อนค่าลง
0.0037 หยวน แตะที่ระดับ 7.1056 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวน ได้รับอนุญาต
ให้ปรับตัวขึ้นหรือลง ไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
  • รมว.คลังสหรัฐฯ และ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เสร็จสิ้นการประชุมวันแรกกรุงมาดริด ประเทศสเปน ในวันอาทิตย์ (14
ก.ย.) โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาในประเด็นการค้า ความมั่นคง และประเด็นทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการกำหนดเส้นตายขายกิจการ
แพลตฟอร์ม TikTok ของจีน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบาย

การเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ดัชนีภาคการผลิต เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., ดัชนี

ตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ