
น.ส.พิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณ 7% โดยเป็นการแข็งค่านำสกุลภูมิภาค จากทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลมากกว่าคาด และราคาทองคำที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยวันนี้ ธปท. ได้เชิญสมาคมค้าทองคำเข้าร่วมหารือ เพื่อพิจารณาแนวทางลดผลกระทบจากการซื้อขายทองคำต่อค่าเงินบาท โดยสมาคมค้าทองคำ ได้เสนอแนวทางที่จะช่วยสนับสนุนการซื้อขายทองคำในประเทศไทยให้เป็นเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น
นอกจากนั้น ธปท. ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านทอง ในการยกระดับการติดตามการซื้อขายทองคำในสกุลเงินบาท โดยเฉพาะพฤติกรรมของนักลงทุนที่อาจส่งผลต่อค่าเงิน รวมทั้งระมัดระวังมิให้ธุรกรรมที่เกิดขึ้น ไปที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ธปท. ได้รับฟังความเห็น และขอให้สมาคมค้าทองคำ และผู้ประกอบการร้านทองคำ จัดทำข้อเสนอแนวทางช่วยลดผลกระทบต่อค่าเงินเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพ และตรงจุด
อนึ่ง วันนี้มีสื่อต่างประเทศ รายงานข่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเก็บภาษีซื้อขายทองคำ เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของประเทศ จากกระแสข่าวดังกล่าว ได้ทำให้การเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้อ่อนค่าสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค โดยเมื่อช่วงเย็นเงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.88 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.73 - 31.96 บาท/ดอลลาร์